มุมมองที่แตกต่าง...ใครถูก?

หลังจากได้ไปพักผ่อนหย่อนใจให้รางวัลตัวเองด้วยการไปท่องเที่ยวหาดใหญ่ สงขลา และได้นำเสนอในบทความก่อนหน้าแล้ว  ผู้อ่านเข้าไปชมกันบ้างหรือยัง?  ถ้ามีคำติชมใดก็ส่งอีเมลเข้ามาได้นะครับ   ผมจะปรับปรุงในคราวต่อไป  เผื่อว่ามีใครจ้างผมไปเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวกับเขาบ้างจะได้ไปเที่ยวฟรี ฮ่าๆ..

อย่างไรก็ดีในภาคการเงินซึ่งเป็นโลกแห่งการลงทุนก็ยังคงดำเนินต่อไป   แม้สถานการณ์ตลาดช่วงนี้ยังคงผันผวนแต่นักลงทุนหลายรายก็ยังหาช่องทางในการสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไป 

ในภาคเศรษฐกิจชาวบ้านจากการที่ไปสัมผัสของจริงด้วยการเดินทางท่องเที่ยว    ผมสังเกตเห็นว่าช่วงนี้มีผู้คนออกมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมากขึ้น เช่น ขายก๋วยเตี๋ยว  ขายกาแฟ  ขายกล้วยทอด ฯ    จากประเด็นนี้ผมได้นำไปพูดคุยกับบุคคลอื่นว่ามีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร

จากการแลกเปลี่ยนกับคู่สนทนา   ทางคู่สนทนาได้มองเห็นว่าเศรษฐกิจดี   มีคนสนใจทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น   เกิดผู้ขายสินค้าหลากหลายทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น     แต่ผมกลับมองในมุมที่ต่างออกไปเพราะการที่มีผู้ขายสินค้ามากขึ้นนั้นอาจเกิดจากสาเหตุการเลิกจ้างหรือโรงงานปิดตัวลง

นอกจากนั้นการมาเป็นผู้ขายมากขึ้นนั้นก็ทำให้ผู้ซื้อลดลงไปด้วย   จากการที่ผมเห็นในช่วงกลางวันส่วนใหญ่พ่อค้า  แม่ค้าจะนั่งมองหน้ากันหรือคุยกันมากกว่าขายสินค้า   ผมจึงมองว่าช่วงนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีเพราะการใช้จ่ายยังไม่คึกคัก    แต่ก็ยังคงมีหวังจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล   

อย่างไรก็ตามคู่สนทนาของผมอาจจะไม่ได้ไปเห็นบรรยากาศแหล่งการค้าในช่วงกลางวันจึงทำให้มีมุมองต่างกันไปหรือผมอาจจะวิเคราะห์ผิดพลาดก็ได้      ทั้งนี้ต้องการชี้ให้เห็นว่าการที่มีมุมมองต่างกันนั้นทำให้การกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนต่างกันไปด้วย

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าวิเคราะห์ถูกหรือผิด?  ในมุมองของผมก็คือผลประกอบการและราคาหุ้นจะเป็นตัวสะท้อนว่าการวิเคราะห์ที่ผ่านมานั้นถูกหรือผิด       ตัวแปรที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือเวลาเพื่อเป็นตัวกำกับว่าผลการวิเคราะห์มีประสิทธิภาพหรือไม่?    แต่ก็เป็นการยากที่จะระบุเวลาตายตัวโดยต้องอาศัยประสบการณ์

ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่าหุ้นตัวนั้นมีอนาคตที่ดีจึงเข้าลงทุน    แต่บางครั้งผลที่ออกมาไม่เป็นอย่างที่คาดคิดซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ      แต่นั่นจะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์การวิเคราะห์ในคราวต่อไป

อย่างไรก็ตามมีอีกความคิดหนึ่งที่เชื่อว่าราคาจะชี้นำผลประกอบการ     เนื่องด้วยผลประกอบการจะรายงานออกมารายไตรมาสซึ่งราคาหุ้นนั้นเคลื่อนไหวอยู่ทุกวัน     ดังนั้นราคาหุ้นจะปรับตัวลงมาก่อนที่ผลประกอบการจะออกมาแล้วผลประกอบการก็ออกมาไม่ดีจริงๆ   หลังจากนั้นหุ้นก็เป็นขาลงเต็มตัว 

ขอยกตัวอย่างที่ผมเคยซื้อหุ้นไฟแนนซ์ตัวหนึ่งในช่วงเติบโต   เศรษฐกิจกำลังดีทำให้ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงเกือบ 100% จากราคาต้นทุนที่ถือมาแล้วหลังจากนั้นราคาก็ปรับลงทั้งที่เศรษฐกิจกำลังดีอยู่ ต่อมาผลประกอบการออกมาเริ่มลดลง    ราคาก็ปรับสู่ขาลงเต็มตัวและเศรษฐกิจโดยรวมก็แย่ลงตามลำดับ           

แนวทางแก้ปัญหานี้หากผู้อ่านเป็นนักลงทุนแนวเทคนิคก็สามารถใช้กราฟเทคนิคประกอบการขายทำกำไรหรือหยุดขาดทุน   หากเป็นแนววีไอก็ประเมินมูลค่าพื้นฐานเมื่อถึงเป้าหมายหรือพื้นฐานเปลี่ยนก็ขายเช่นเดียวกัน 

สุดท้ายนี้มุมมองต่อการลงทุนยังจำเป็นเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุน     ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด   เราต้องพากเพียร  ฝึกฝน  เรียนรู้  สร้างเสริมประสบการณ์ บ่อยๆ   แล้วเราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ    ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด