อสังหาฯ ราคาถูก

ไม่ว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร?  การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนหรือผู้อ่านควรทำการศึกษา     เนื่องด้วยมูลค่าของที่ดินนั้นมีการปรับขึ้นอยู่ตลอดเวลาจึงส่งผลให้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง

การลงทุนในอสังหาฯ นี้สามารถหารายได้ได้ 2 ทาง ทั้งจากค่าเช่าและส่วนต่างราคาคือหลังจากที่ซื้อทรัพย์นั้นมาแล้วขายทำกำไร   ซึ่งดูจะไม่แตกต่างกับหุ้นมากนักที่มีทั้งเงินปันผล (Dividend) และกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain)

แต่การลงทุนในลักษณะนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างจากหุ้นคือ หากเราให้เช่าจะมีรายได้ที่เป็นกระแสเงินสดทุกเดือนและส่วนใหญ่จะมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก   ส่วนหุ้นส่วนมากจะให้เงินปันผลเป็นรายปีหรือรายครึ่งปี

ในส่วนของส่วนต่างราคานั้นอสังหาฯจะมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น  ราคาจะปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ตามความเจริญของเมืองเนื่องจากพื้นที่มีจำกัดแต่ความต้องการมีสูงขึ้นเรื่อยๆ       แต่หุ้นนั้นมีความผันผวนสูงกว่าและไม่สามารถการันตีว่าราคาจะปรับขึ้นอย่างแน่นอนขึ้นกับระยะเวลาและปัจจัยต่างๆ ประกอบกัน

ทั้งนี้หากทำการศึกษาวิธีการลงทุนอสังหาฯ นั้นมีเทคนิคการใช้เงินคนอื่น (Other Money People) คือการนำเงินธนาคารมาสร้างทรัพย์สินหรือผลตอบแทน     ข้อควรระวังในการใช้วิธีนี้คือผลตอบแทนจาการให้เช่าต้องมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร   มิฉะนั้นทรัทย์นั้นจะกลายเป็นหนี้สิน  เป็นภาระทางการเงินทันที

อย่างไรก็ดีหุ้นนั้นไม่สามารถที่จะกู้ยืมคนอื่นมาลงทุนได้เพราะจะเป็นต้นทุนทางการเงินที่มีผลต่อการลงทุนอย่างมาก      ควรจะเป็นเงินเย็นที่เหลือเก็บจากการทำงานโดยแบ่งมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน    สรุปง่ายๆ คือธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้เรานำมาลงทุนในหุ้น

นอกจากนั้นอีกเรื่องที่สำคัญคือสภาพคล่อง  เนื่องจากอสังหาฯ นั้นมีราคาสูงจึงทำให้มีสภาพคล่องต่ำ  คือมีการซื้อขายกันยากสักหน่อยและต้องไปผ่านกระบวนทางกฎหมาย (สนง.ที่ดิน) หรืออาจจะมีธุรกรรมกับธนาคารร่วมด้วยในกรณีที่ขอกู้เงินหรือจดจำนอง  แต่หุ้นส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหานี้

ที่กล่าวมาคือการเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการลงทุนระหว่างอสังหาฯกับหุ้น      การสร้างอิสรภาพทางการเงินนั้นมีหลายช่องทางขึ้นกับความรู้   ความสามารถ  ความถนัดของแต่ละบุคคล   ยิ่งเรียนรู้และลงทุนได้หลายช่องทางยิ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น

ด้วยความที่ผมมีความสนใจและได้พยายามศึกษารวมถึงการออกไปดูทรัพย์ที่สถานที่จริงและจากผู้ขายหลายแหล่ง เช่น กรมบังคับคดี  ทรัพย์ของธนาคาร  และผู้ขายที่เป็นบุคคลธรรมดา       พบว่าส่วนใหญ่ทรัพย์จากกรมบังคับคดีนั้นจะมีราคาถูกกว่าแหล่งอื่นๆ

โดยปกติผมจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของทรัพย์จะถูกประมูลก่อนเพราะไม่อยากรู้สึกว่าไปไล่ที่เขา    ล่าสุดจะเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน  แต่ร้านค้าข้างๆ  แนะนำว่าไปคุยก็ไม่ได้ข้อมูลแท้จริงและถึงแม้ว่าเราไม่ไปประมูลก็มีคนอื่นไปประมูลอยู่ดี   ด้วยเหตุนี้ผมจึงไปร่วมประมูลโดยที่ยังไม่ได้คุยกับเจ้าของบ้าน

อย่างไรก็ตามบ้านหลังที่สนใจนั้นมีผู้ผูกพันราคาไว้  ผมเข้าไปสู้ราคาจนทำให้บ้านหลังนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาอีก 120,000 บาท  แม้ผมจะไม่ชนะการประมูลแต่ผมได้มุมมองใหม่ว่า “เราได้ไปช่วยให้จำเลย  เจ้าของทรัพย์นั้นได้เงินเพิ่มขึ้นอีก ไม่ใช่ว่าเราจะไปไล่ที่เขาเหมือนเดิมที่เคยคิด”  และยังเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย

การลงทุนในอสังหาฯ เปรียบเหมือนการลงทุนในหุ้น  การประเมินราคาจนถึงการซื้อทรัพย์นั้นคล้ายกับการลงทุนแนวเน้นคุณค่าหรือวีไอ   ซื้อในราคาที่เห็นว่าเหมาะสม  สู้ในราคาที่เราประเมินไว้แล้วทรัพย์นั้นก็จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่เรา     ทั้งนี้เหรียญมี 2 ด้านเสมอบางท่านอาจจะไม่ชำนาญจริงๆ ก็แล้วแต่ความชอบ

การหาอสังหาริมทรัพย์  ความรู้ แแนวคิดหรือการเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ นั้นเกิดจากทฤษฎีและการปฏิบัติ    หากเราเรียนรู้ทั้ง 2 ด้านจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเป็นเท่าทวี...ชีวิตคือการเรียนรู้    ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ” 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด