แบกเป้เที่ยวตรัง 2
คืนแรกที่ตรังกับบรรยากาศฝนตกชุ่มฉ่ำตลอดทั้งคืน ตื่นเช้าสักประมาณ 7 โมงเช้าออกไปหาติ่มซำ
หมูย่างเมืองตรังกิน...เดี๋ยวใครๆ เขาจะว่าไปไม่ถึงเมืองตรัง
ทางพี่เจ้าของเกสต์เฮ้าส์แนะนำร้านเลตรัง 2 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่พักและโรงพยาบาลราชดำเนิน สะดวกดี เดินไม่ไกล มีผู้คนมาใช้บริการมากทีเดียว
จากนั้นกลับไปรอรถตู้มารับที่เกสต์เฮาส์ในเวลา 8 โมงเช้า เพื่อไปทริปดำน้ำ 1 วัน 3 เกาะ 4 จุด
โดยไปขึ้นเรือที่หาดปากเมง
ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 40 กิโลเมตร ผมจำไม่ได้ว่าเกาะที่ไม่ได้ไปคือเกาะอะไร
น่าจะเป็นเกาะม้า แต่ที่ไปแน่ๆ คือ เกาะมุก(ถ้ำมรกต)
ซึ่งเป็น Unseen Thailand เกาะรอก เกาะเชือกหรอเกาะกระดาน
ขออนุญาตรวบรวมรูปภาพตลอดทริปกับจาระวีทัวร์ ตั้งแต่เช้าถึงเย็นมาฝาก

ไฮไลท์ของวันนี้อยุ่ที่การเข้าชมถ้ำมรกตในช่างบ่าย
โดยต่อตัวเป็นขบวนรถไฟแล้วถีบจักรยานน้ำเข้าไปด้านในถ้ำ เมื่อผ่านปากถ้ำเข้าไปเล็กน้อยมองออกมาจะเห็นน้ำเป็นประกายคล้ายมรกต เพราะแสงแดดส่องเข้ามาที่ผิวน้ำตรงปากถ้ำ สวยงามครับ ...ต้องมาจริงๆ
บรรยากาศระหว่างต่อขบวนกันเข้าไปก็จะส่งเสียง ฮุย..เล..ฮุย พร้อมกับสวนกับขบวนที่ออกมา เป็นที่สนุกสนานครื้นเครง ระยะทางประมาณ 100 กว่าเมตรก็จะทะลุเข้าไปถึงภายในที่เป็นพื้นที่ไม่กว้างนัก รอบๆ ด้านเป็นผนังเขา มองขึ้นไปบนฟ้าบนปากเขาจะเป็นเหมือนรูปหัวใจ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีรูปในส่วนนี้มาฝาก
แต่ละกรุ๊ปทัวร์มีเวลาสัมผัสธรรมชาติภายในประมาณ 20 นาที
แล้วต้องออกมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ได้เข้ามาสัมผัสธรรมชาติอันงดงามนี้บ้าง...หายเหนื่อยครับ จุดสุดท้ายไปที่เกาะรอกหรือเกาะเชือก ปะการังสวย
สมบูรณ์ดี
ขากลับจากหาดปากเมงรถตู้รอคนเต็มแล้วออกเดินทาง ระหว่างทางฟ้ามืดมาก ฝนตกหนักทีเดียว ไปถึงที่พักเกือบ 6 โมงเย็น อาบน้ำพักผ่อนสักพักก่อนออกเดินไปหาอาหารเย็นกินที่ตลาดกลางคืน
กลับเข้าที่พักวางแผนเที่ยวต่อพรุ่งนี้ ซึ่งตามโปรแกรมผมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ด้วยรถไฟในช่วงเย็น
เดิมตั้งใจว่าช่วงเช้าจะไปเที่ยวกันตัง แต่ระหว่างนั่งเรือทัวร์ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นแนะนำว่ามาตรังควรจะไปถ้ำมรกตและถ้ำเลเขากอบ
ซึ่งเป็น Unseen Thailand ทั้งคู่ ถ้าไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงตรัง
ได้ยินแบบนี้ยอมไม่ได้ ...จำต้องเปลี่ยนแผนทันทีครับ เบนเข็มไปถ้ำเลเขากอบเต็มกำลังอาจจะต้องตัดกันตังทิ้งเพราะว่าอยู่กันคนละทิศละทาง
เช้าตื่นมาฝากกระเป๋าไว้กับเจ้าของเกสต์เฮาส์แล้วขึ้นมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปต่อรถที่ท่า
Taxi(รถเก๋งเก่าๆ
รวมตัวกันเป็นคิวรถ)
อนึ่งการเดินทางไปถ้ำเลเขากอบไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ ไปอำเภอห้วยยอดประมาณ 30 กม. ค่าโดยสาร 30
บาท
จากนั้นต้องเหมารถมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปอีกประมาณ 10 กม.หรือจะต่อรองราคาให้รถ
Taxi ไปส่งก็ได้แล้วแต่สะดวก
ไปถึงถ้ำเลเขากอบในช่วงสายแต่ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปลอดถ้ำมังกรที่เป็นไฮไลท์ได้
เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักมากและหลายชั่วโมง
ทำให้น้ำมีระดับสูง เอาล่ะสิ...งานเข้าแล้วเรา อุตส่าห์ตั้งใจมาด้วย อันนี้โชคไม่เข้าข้างบ้างแล้ว ฮ่าๆๆ ขากลับก็ไม่มีรถกลับด้วย จึงตัดสินใจนั่งพี่มอเตอร์ไซด์คันเดิมกลับออกมา
เริ่มสนุกหรือยังครับ?
ต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะจึงสอบถามพี่วินมอเตอร์ไซด์ว่าที่ห้วยยอดมีสถานีรถไฟหรือไม่?... มีครับมี
ตอนนี้ไปกันตังทันหรือป่าว...ทันครับทัน
และแล้วโชคก็กลับมายืนข้างเราบ้าง ฮ่าๆ
ถ้าไม่มีรถไฟคงต้องต่อรถยนต์และใช้เวลาอีกนานพอสมควรทีเดียว
นั่งรถไฟชมววิวไปด้วยเพื่อไปลงที่สถานีกันตังซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายสุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน อีก 2 สถานีโดยผ่านสถานีตรังก่อน ไปถึงช่วงประมาณ 11 โมงกว่าๆ จากนั้นเดินไปชมพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี
ซึ่งเคยเป็นเจ้าเมืองตรัง
จากนั้นไปกินราดหน้าทะเลเป็นร้านชื่อดังที่นั่น เด็กนักเรียนที่นั่งรถไฟไปเที่ยวบอก ผมจำชื่อร้านไม่ได้
แล้วกลับมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน Love Station ที่สถานีรถไฟ
เก็บบรรยากาศก่อนขึ้นรถไฟช่วงบ่ายโมงกลับจากกันตังมาลงที่สถานีตรัง
จากนั้นช่วงบ่ายหลบร้อนไปเดินห้างโรบินสัน เดินดูบรรยกาศต่างๆ ก่อนกลับไปที่สถานีรถไฟตรังในช่วงเย็น เดินทางกลับถึงสถานีศาลายาในช่วงสาย ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ การเดินทางช่วยให้เรียนรู้ชีวิตและสร้างแรงบันดาจใจให้พร้อมกลับมาลุยงานต่อ และแล้วการเดินทางในทริปนี้ก็จบลง ทริปหน้าผมจะไปไหน?...ติดตามกันนะครับ ขอให้โชคดี...มีสติ
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น