การลงทุนในหุ้น

ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินคำว่า เล่นหุ้น”  กันมาบ้างนะครับ   สำหรับคนที่ยังไม่ได้สนใจอย่างจริงจัง ฟังแบบผิวเผิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมนุษย์เงินเดือน   คิดว่าเป็นการพนันรูปแบบหนึ่ง  จึงไม่ทำการศึกษา  ทำความเข้าใจแล้วก็ปล่อยผ่านไป     เงินเดือนออกมาก็ใช้หมดไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ  ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนคอนโดมิเนียม  

อาจจะคิดว่าตัวเองมีความสำคัญที่บริษัทต้องจ้างเขาตลอดไป  มีความเสี่ยงในชีวิตสูงมาก  บางคนออมเงินจากการทำงานประจำไปประกอบธุกิจส่วนตัว  ทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว   แต่อย่างน้อยก็ยังได้ประสบการณ์อันล้ำค่า
 
ทั้งนี้เมื่อเริ่มต้นทำงานแล้วเราควรออมเงินเก็บไว้เพื่อเป็นทุนในการช่วยเราทำงานอีกแรงหนึ่ง   ซึ่งบทความในบล็อกก่อนหน้านี้ ก็มีหลายวิธีในการใช้เงินช่วยเราทำงาน 

ในส่วนของการลงทุนในหุ้น หรือในภาษาที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เล่นหุ้น” นั้น  มันขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีในการลงทุนของคนๆ นั้น     เราสามารถเป็นได้ทั้งนักลงทุน   นักเก็งกำไร   และเป็นได้ทั้งสองแบบในเวลาเดียวกัน   

ทั้งนี้แนวทางการลงทุนหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือแบบเน้นคุณค่า (Value Investor)   และแบบโมเมนตัม (Momentum Investor)     โดยที่นักลงทุนเน้นคุณค่าจะซื้อความเป็นเจ้าของธุรกิจ และให้ความสำคัญกับเงินปันผลเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราเงินฝากของธนาคาร พูดง่ายๆ คือดีกว่าฝากแบงก์ล่ะ ลงทุนโดยใช้เวลานาน    ถ้าใครที่ทำงานประจำและลงทุนแนวนี้ก็เหมือนเราเป็นเจ้าของกิจการและจ้างมืออาชีพมาบริหารบริษัทให้     

อีกแนวหนึ่งคือแบบโมเมนตัม   จะเป็นการลงทุนที่ใช้จังหวะเวลาว่าอุตสาหกรรมใดกำลังมา  มีปริมาณการซื้อขาย (Volume) หนาแน่น   มีการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการวิเคราะห์โดยใช้กราฟมาช่วยในการตัดสินใจเข้าซื้อขายในแต่ละครั้ง   

การลงทุนจะเป็นแบบเล่นรอบหรือแบบเล่นสั้น     โดยระยะเวลาเล่นรอบก็รอให้ราคาขึ้นไปจนหลุดแนวโนมขาขึ้นก็ขาย   ส่วนแบบเล่นสั้นนั้น  มีทั้งแบบเล่นเป็นรายวัน  รายนาที    ซึ่งยิ่งสั้นยิ่งมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากราคาหุ้นขึ้นลงตามอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน(Supply) คนที่มีเงินมากกว่าก็จะมีความได้เปรียบ      ส่วนใหญ่จะเป็นนักเก็งกำไรกึ่งๆ การพนัน ทั้งที่รู้ว่าเสียเปรียบแต่ก็อยากได้เงินเขา

ถ้าเราทำการศึกษาวิธีการลงทุนให้ถูกจริตของเราก็สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้   ไม่ว่าเราจะลงทุนในแนวทางไหน  เริ่มต้นเราต้องลงทุนในการศึกษาหาข้อมูล  อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน    เรียนรู้ตามเวบไซต์ในการลงทุนต่างๆ  เข้าร่วมงานสัมมนาฟรีที่ตลาดหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์จัดขึ้น    เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ  เพื่อลงมือปฏิบัติควบคู่ไปกับทฤษฎีทำให้เราเข้าใจได้เร็วขึ้น    

สุดท้ายขอฝากผู้อ่านว่าถ้าวันนี้เราปลูกต้นมะม่วงแล้วเราจะเก็บผลกินภายในระยะเวลา 2-3 เดือน คงไม่ได้    มันต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ   และเมื่อเราเลี้ยงดูมันจนออกลูกออกผลให้เราแล้ว   เราสามารถเก็บมันกินได้ตลอดไป โชคดีลูกหลานของเราอาจจะได้กินด้วยนะครับ...
                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด