ลงทุนในหุ้นแบบโมเมนตัม
บทความที่ผ่านมาได้กล่าวถึงการลงทุนแบบ VI
ไปแล้ว
บทความนี้จะนำเสนอการลงทุนอีกแบบหนึ่งซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนทั้งรายใหญ่
รายย่อย มือเก่า มือใหม่ โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ คือการลงทุนแบบโมเมนตัม
(Momentum Investing) โดยแนวทางนี้อาศัยการวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical
Analysis) เป็นแกนหลัก
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคนี้จะอาศัยข้อมูลทางสถิติโดยนำข้อมูลราคาหุ้นในอดีตที่ผ่านมามาพล็อตกราฟ ประกอบกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) โดยแนวทางนี้มีความเชื่อว่าราคาหุ้นจะขึ้นลงตามอุปสงค์
(Demand) หรือความต้องการซื้อ และอุปทาน (Supply) หรือความต้องการขายหรือจำนวนหุ้นที่พร้อมขาย
เมื่อมีอุปสงค์มากราคาจะถูกผลักดันให้มีราคาสูงขึ้นซึ่งสัมพันธ์กับจำนวนหุ้นที่พร้อมขายด้วย
ในทางกลับกันถ้าอุปสงค์น้อยราคาราคาจะถูกดึงให้มีราคาต่ำลง
การลงทุนแนวโมเมนตัมนี้จะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับขึ้นและ
Volume มีปริมาณมากขึ้น แล้วรอจนราคาตกแนวโน้มจึงขาย พอใจกับกำไรหรือเห็นว่ามีหุ้นตัวอื่นที่น่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่า โดยจะใช้เวลาลงทุนไม่นานเหมือน VI
นอกจากนั้นการวิเคราะห์นี้ยังจะพิจารณาถึงแนวต้าน แนวรับ แนวโน้มของราคา รูปแบบของราคา
จุดกลับตัว และอินดิเคเตอร์ต่างๆ (Indicators) เช่น RSI,
MACD, Stochastic Momentum, Moving Average Indicator เช่น EMA,
SMA , Oscillators Indicator, Band
Indicators
อย่างไรก็ดีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์มีให้เลือกใช้หลายอย่างมาก
ซึ่งผู้ลงทุนจำเป็นต้องทำการศึกษาหาเครื่องมือที่เหมาะกับตัวเอง
รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์จะใช้แบบรายเดือน รายสัปดาห์
รายวัน
รายชั่วโมงหรือรายนาทีขึ้นอยู่กับการวางแผนของแต่ละบุคคล
นอกจากนั้นยังต้องศึกษาทฤษฎีที่ใช้ในการวิเคราะห์ด้วย เช่น Dow Theory, Elliott Wave
ทั้งนี้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคเป็นการวิเคราะห์รูปแบบของกราฟที่เกิดไปแล้วเพื่อคาดเดาอนาคต เครื่องมือและทฤษฎีที่ใช้มีหลากหลาย แต่ละคนก็มีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นก่อนที่ผู้ลงทุนจะนำไปใช้ควรศึกษาให้ถ่องแท้ และที่สำคัญที่สุดต้องมีวินัยเพราะถ้ามีสัญญาณขายแล้วไม่ขายเราอาจจะเสียหายได้
การลงทุนแนวทางนี้ต้องหมั่นสังเกตบ่อยๆ จะทำให้เกิดประสบการณ์ในการวิเคราะห์ได้แม่นยำขึ้น
โดยโปรแกรมที่ใช้วิเคราะห์หุ้นออนไลน์ก็มีหลายโปรแกรม เช่น ASPEN,
BISNEWS, EFinanceThai ทั้งนี้ผมใช้ของ
EFinanceThai เนื่องจากใช้ฟรีเพราะว่าโบรกเกอร์ที่ผมใช้บริการเป็นสมาชิกของ
EfinanceThai ผู้อ่านสามารถตรวจสอบกับโบรกเกอร์ที่ท่านสนใจได้
อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อคาดเดาอนาคตมีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ ทั้งนี้การลงทุนแบบนี้จำเป็นต้องมีจุดหยุดขาดทุนด้วยถ้าไม่เป็นไปตามที่คาด มุมมอง การวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน รวมถึงแผนการการลงทุนที่ต่างกัน
จึงทำให้การลงทุนในหุ้นมีเสน่ห์ ผู้ที่มั่งคั่งคือผู้ที่คิดถูก ผมจึงย้ำให้ผู้อ่านหาวิธีการลงทุนในรูปแบบของตัวเองให้เจอ ขอให้โชคดี มีสติครับ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น