เหรียญมี 2 ด้านเสมอ

1-2 เดือนที่ผ่านมานี้มีฝนตกชุ่มฉ่ำทั่วประเทศ ส่งผลให้มีน้ำสำหรับอุปโภค บริโภคมากขึ้น   แตกต่างกับช่วงก่อนหน้าระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมที่อากาศร้อนจัด  น้ำแล้งทำให้เกิดความเสียหายต่อผลิตผลทางการเกษตรเป็นวงกว้าง   ซึ่งนับว่าช่วงนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัวแล้ว

จากการเกริ่นนำข้างต้นจะพบว่าวันเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง  หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ  แต่ละฤดูก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป  ตัวอย่างง่ายๆ เช่นฤดูร้อน ที่อากาศร้อนจัดแต่ผู้เขียนสามารถไปออกกำลังกายในตอนเย็นได้อย่างสะดวกเกือบทุกวัน

เมื่อเข้าสู้ฤดูฝนอากาศไม่ร้อนจัด  ทำงานด้วยความสบายกาย   แต่การไปออกกำลังกายยามเย็นก็ไม่สะดวกเหมือนฤดูร้อนเพราะฝนจะตกอยู่เป็นประจำ     ยามเมื่อแดดออกทำให้เรารู้สึกกระปี้กระเปร่า  สดชื่น  ทำงานด้วยความตื่นตัวแต่ก็ร้อน  หากฟ้าขมุกขมัวจะทำให้เรารู้สึกไม่ตื่นตัว อยากนอน แต่ก็เย็นสบาย เป็นต้น

ทั้งนี้จะพบว่าไม่ว่าเหตุการณ์หรือสิ่งใดๆ ล้วนมี 2 ด้านเสมอทั้งแง่บวกและลบ   ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งเหล่านี้  มองให้เห็นด้านดีและนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและผู้อื่น 

อย่างไรก็ตามที่ผู้เขียนกล่าวมาทั้งหมดนี้เพื่อต้องการชี้ให้เห็นถึงสิ่งต่างๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย    เนื่องจากช่วงปลายเดือนมิถุนายนมีเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดต่อกันนานหลายปีได้โทรศัพท์มาสอบถามเกี่ยวกับการลงทุนกองทุนรวมเพื่อประหยัดภาษี

หากผู้อ่านติดตามบทความก่อนหน้า มุมมองของผู้ให้คำแนะนำ...” วันที่  27 มิถุนายน 2559 (http://freedomlife-2014.blogspot.com/2016/06/blog-post_26.html)     เพิ่งมีคนสอบถามเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมเช่นเดียวกัน   เหตุผลอะไร? คนถึงสนใจลงทุนมากขึ้นลองตามเข้าไปอ่านดูนะครับ..

หากมองในแง่ของการลงทุนหรือการสร้างอิสรภาพทางการเงินนั้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคนสนใจการลงทุนมากขึ้น     ซึ่งผมก็ให้คำแนะนำเดียวกับบทความข้างต้นคือให้เพื่อนไปดูผลตอบแทนจากการลงทุนย้อนหลัง 3-5 ปีของกองทุนรวมต่างๆ 

โดยมีเว็บไซต์ที่รวบรวมผลงานกองทุนรวมต่างๆ มากมาย เช่น  WealthMagik, Morningstar Thailand     เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกกองทุน    แต่ได้กำชับว่าผลงานในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่สามารถการันตีผลงานในอนาคตได้  และเมื่อสนใจกองทุนตัวใดให้เข้าไปอ่านหนังสือชี้ชวนเพิ่มเติม  

เนื่องด้วยความเสี่ยงเป็นเรื่องเฉพาะตน  มีหลายเหตุ หลายปัจจัยที่ทำให้แต่ละคนรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน  ดังนั้นแต่ละคนจึงต้องศึกษาและออกแบบการลงทุน กลยุทธ์ในการเข้าซื้อหรือขาย    การลงทุนนั้นเป็นทั้งศาสตร์ละศิลป์   ไม่มีอะไรสำเร็จโดยง่าย คงต้องให้เวลากับสิ่งพวกนี้สักหน่อย 

อนึ่งอีกฝั่งหนึ่งของเหรียญด้านการลงทุน  ก่อนที่ทุกคนจะเข้ามาลงทุนส่วนใหญ่จะมีความโลภ  มีความหวังว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนกันทั้งนั้น   คงไม่มีใครที่เข้ามาแล้วคาดหวังว่าตัวเองจะขาดทุน   ถ้ามีใครคิดแบบนั้น  ผมคงต้องยกนิ้วให้..ใจพี่ได้จริงๆ ฮ่าๆๆ

สำหรับตราสารทุนหรือตลาดหลักทรัพย์นั้น   หลักทรัพย์ต่างๆ มีการเคลื่อนไหวทั้งขึ้นและลง  โดยมีปัจจัยหลากหลาย  เช่น สภาวะเศรษฐกิจโดยรวม  ผลประกอบการ  เงินทุนไหลเข้าออก ฯ     ดังนั้นราคาหลักทรัพย์นั้นอาจจะไม่เป็นดังที่เราคาดก็เป็นได้ 

ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องทำการศึกษาหลักทรัพย์นั้นๆ ให้รอบคอบ   กำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนซึ่งมีหลายรูปแบบที่เหมาะกับจริตและเวลาของเรา     ที่ผมเขียนบทความนี้ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับการลงทุนแต่อยากให้ผู้ลงทุนหน้าใหม่ได้ตระหนักถึงอีกด้านหนึ่งของเหรียญด้วย 
เหรียญมี 2 ด้านเสมอ   มีทั้งบวกและลบ    หากเรารู้จักที่จะมองมุมบวกและนำมาคิดวิเคราะห์บนฐานแห่งความรู้   ความเข้าใจ  น่าจะช่วยให้เราบรรลุจุดมุ่งหมายได้อย่างแน่นอน   ผมเชื่ออย่างนั้น.. สู้ๆ  ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”         

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด