บินเดี่ยวเที่ยวหลวงพระบาง 2
คืนแรกที่หลวงพระบางยามค่ำคืนฝนตกต้อนรับการมาเยือนของผู้เขียน ส่งผลให้อากาศช่วงเช้าค่อนข้างเย็น สบาย อุณหภูมิช่วง 7 โมงเช้า ประมาณ 17
องศาเซลเซียส
โดยเดินไปดูวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำโขงที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก
จากนั้นเดินเที่ยวตลาดเช้าซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
ซึ่งไม่ไกลจากตลาดกลางคืนที่ไปเดินเมื่อวานที่ผ่านมา
มีผู้คนมากมายเดินจับจ่ายสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน
เดินไปเรื่อยๆ จนถึงหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
หลวงพระบาง
สร้างขึ้นในรูปแบบแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ซึ่งในอดีตกาลเคยเป็นวังของเจ้าชีวิตและที่ประดิษฐานของพระบาง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง
ซึ่งชื่อของเมืองหลวงพระบางก็ได้มาจากชื่อของพระพุทธรูปองค์นี้ (ห้ามถ่ายภาพภายในพิพิธภัณฑ์และพระบาง จึงไม่มีรูปมาฝาก)
จากนั้นหาอาหารเช้ารับประทานแล้วกลับเข้าที่พักเพื่อเดินทางไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางซีในช่วงสาย การเดินทางไปน้ำตกหรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ใกล้ๆ หลวงพระบางนั้น
จะมีบริษัทที่ขายทริปทัวร์ต่างๆ มากมายให้เลือก รวมถึงณ.ที่พัก แต่ราคาอาจจะแพงกว่าสักหน่อย
เมื่อวานช่วงหัวค่ำที่ไปเดินตลาดมืดได้เดินดูราคาแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ
ไว้แล้ว ไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางซีอยู่ที่ประมาณ 50,000 LAK (กีบ) แต่ช่วงสายเดินออกมาเจอคนขับรถตุ๊กๆ 4 ล้อเรียกจึงสอบถามราคา
ซึ่งเป็นการรวมไปกับกลุ่มนักท่องเที่ยวช่างต่างชาติ ได้ราคาที่ 30,000
กีบ จะช้าอยู่ไย...ไปสิครับ
ถูกกว่าตั้ง 20,000 กีบ
หลวงพระบางมีน้ำตกหลายแห่ง
แต่น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดคือ น้ำตกตาดกวางซี
ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 30 กิโลเมตร โดยที่น้ำตกมีความสวยงามและสามารถเล่นน้ำได้ ภายในยังมีศูนย์อนุรักษ์หมีอีกด้วย
ระหว่างทางได้ชมวิวสองข้างทางพร้อมพูดคุยกับคนขับรถ ทำให้ทราบถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านพื้นถิ่น นักเรียนต้องเดินกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้านแล้วกลับไปเรียนต่อในช่วงบ่าย บางคนไป-กลับวันหนึ่งเดินมากกว่า 10 กิโลเมตร พอเรียนสูงขึ้นในระดับมัธยมจำเป็นต้องมีรถจักยานหรือจักรยานยนต์
เนื่องจากโรงเรียนมีน้อยและอยู่ไกล
ตอนไปถึงคนขับรถจะนัดเวลากลับโดยให้มีเวลาอยู่บนน้ำตก 2-3 ชั่วโมง นัดกันเวลาประมาณ 15.00 น. แต่ในกลุ่มนี้ นทท. ชาวต่างชาติบางคนลงมาช้ากว่า
1 ชั่วโมง (ใครว่าฝรั่งตรงเวลาทุกคน อันนี้ไม่จริง...) คันอื่นมาทีหลังกลับกันเกือบหมดล่ะ..ฮ่าๆ
ตอนแรกผมวางแผนว่าจะเดินทางต่อไปวังเวียงในวันรุ่งขึ้น ผิดแผนซะแล้ว...
จึงต้องเปลี่ยนแผนอยู่ที่หลวงพระบางต่ออีก
1 คืน
เพราะยังไม่ได้แวะไหว้พระ
ชมเมืองหลวงพระบางเลย เขาอยากให้เราอยู่ต่อ...
ก็อยู่ต่อนี่ล่ะ
เห็นข้อดีของการมาคนเดียวหรือยังครับ
ไปหงุดหงิดก็ไม่มีประโยชน์อะไร...เที่ยวไม่สนุกป่าวๆ
กลับมาถึงตัวเมืองหลวงพระบางในช่วงเย็นประกอบกับฟ้าปิดจึงขึ้นไปไหว้พระธาตุภูสีและชมวิวเมืองไม่ทัน ไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่ ต้องเอารูปมาฝากผู้อ่านให้ได้
จากนั้นช่วงค่ำออกไปหาอาหารเย็นกินที่เป็นอาหารมังสวิรัติ 1ชาม ตักได้ทุกอย่าง 15,000
กีบหรือบุฟเฟ่ตนั่นเอง ลองชิมตามรอยเวบบอร์ดแบบคนอื่นบ้าง ก็อร่อยดี...
ช่วงค่ำกลับเข้าที่พักวางแผนท่องเที่ยวกันต่อ อยู่ต่ออีก 1 คืน ท่องเที่ยวแบบสบายๆ ช้าๆ
ชมเมืองไป ดื่มด่ำกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง ..แล้วผมจะไปไหนต่อ...ตามชมกันนะครับ ขอให้โชคดี...มีสติ
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น