ลงทุนตามถนัด

ปัจจุบันจำนวนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีเกือบ 700 ตัว   ดังนั้นการที่เราจะติดตามทุกตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก     ปัญหาของผู้ลงทุนหน้าใหม่คือการฟังเขาบอกมาว่าหุ้นตัวนั้นดีก็จะซื้อตามเซียน  เซียนอีกคนบอกว่าดีก็ซื้อเพิ่ม  ปรากฏว่าหุ้นเต็มพอร์ตไปหมด

นอกจากนั้นการที่หุ้นตัวนั้นราคาขยับขึ้นมาจะกระตุ้นให้เกิดความโลภ  เข้าซื้อ  ซื้อและซื้อ  บางคนมีหุ้นอยู่ในพอร์ตมากกว่า 20 ตัว   ส่งผลให้ไม่สามารถติดตามหุ้นนั้นๆ ได้ทัน   ผลสุดท้ายอาจจะได้รับความเสียหายมากกว่าได้กำไรจากการลงทุน
  
การลงทุนแบบนี้เหมือนกับการขาดแผนการหรือกลยุทธ์ในการลงทุน  เล่นหุ้นตามข่าว  ส่งผลให้การบรรลุถึงเป้าหมายในการลงทุนค่อนข้างยากลำบาก     เนื่องจากการที่เราตามหุ้นหลายตัวนั้นทำให้เราขาดการเพ่งเล็งหรือโฟกัส (Focus) เพราะต้องติดตามหรือเสาะแสวงหาความรู้เกี่ยวกับกิจการของหุ้นตัวนั้นๆ หลายตัวเกินไป

จากประสบการณ์ของผมการที่เราถือหุ้นหลายตัวเกินไปจะทำให้เราสับสน  และต้องทำความเข้าใจในหลายกิจการพร้อมกัน    ซึ่งจะส่งผลให้ติดตามไม่ทัน  ผลการลงทุนไม่ดีเท่าที่ควร   นอกจากนั้นยังทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามหากผู้ลงทุนทำงานหรือมีความชำนาญ   มีประสบการณ์ในด้านใดด้านหนึ่ง   และเลือกลงทุนหุ้นในอุตสาหกรรมนั้นๆ  ก่อน  จะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์อนาคตได้ค่อนข้างดี   เพราะทราบถึงพื้นฐาน     วัฏจักรหรือวงจรของธุรกิจนั้นๆ  เป็นอย่างดี  ใส่ใจกับหุ้นนั้นๆ เพียงตัวเดียวก่อน  

ยกตัวอย่างเช่นหากผู้อ่านทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการค้าปลีก   เราจะพอคาดเดายอดขายได้   ฤดูกาลไหนที่จะมีรายได้สูงสุด  คู่แข่งมีใครบ้าง   ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทไหนมากที่สุด  เป็นต้น

โดยติดตามดูกราฟเพื่อศึกษาพฤติกรรมของหุ้นตัวนั้นๆ  ยังไม่ให้ความสำคัญกับหุ้นตัวอื่น    ด้วยหลักการนี้ผมเชื่อว่าผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่ดีและสามารถหากินกับหุ้นในกิจการนั้นๆ ได้ตลอดไป    นอกจากนั้นเมื่อมีความชำนาญในกิจการนั้นๆ แล้ว   ค่อยขยับไปยังอุตสาหกรรมอื่นน่าจะเป็นหนทางที่ดี

ทั้งนี้การที่เราค่อยๆ ศึกษาเพิ่มเติมทีละตัวๆ  จะช่วยให้การลงทุนไม่เสี่ยงจนเกินไป   ค่อยเป็นค่อยไป   จะทำให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีความสุข     เราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทีละอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ      

การแนะนำให้ค่อยๆ ทำการศึกษาและลงทุนเพิ่มทีละตัวนั้น   เพราะปกติเวลาหุ้นขึ้นนั้น ราคาจะขยับขึ้นช้า    สวนทางกับหุ้นลง ราคาจะลงเร็วมาก   จะทำให้เราไม่สามารถขายหุ้นได้ทันและอาจได้รับความเสียหายได้

นอกจากนั้นยังเป็นการฝึกไม่ให้เกิดความโลภด้วย   เมื่อหุ้นตัวอื่นที่เราไม่ได้มีความรู้  ความเข้าใจในกิจการนั้นๆ  ราคาสูงขึ้น   เราก็ยังไม่เข้าไปลงทุน   ค่อยๆ ศึกษาและลงทุนไปทีละตัว  ทีละกิจการ   จะทำให้มีความเสี่ยงในการลงทุนค่อนข้างต่ำ  เพราะเราลงทุนในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ

นักลงทุนบางคนอาจมองว่าเป็นการเสียโอกาสในการลงทุน     แต่ราคาหุ้นนั้น มีขึ้น  มีลง  มีรอบของกิจการนั้นๆ    ไม่ทันรอบนี้  รอรอบหน้าก็ได้  ดีกว่าที่เราลงทุนไปตามคำบอกเล่าของคนอื่น   ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้   ความภาคภูมิใจและที่สำคัญอาจจะติดดอยก็เป็นได้

สุดท้ายนี้หากผู้อ่านบางท่านมีความเชี่ยวชาญหลายด้านก็ขอยกไว้   การที่เราให้ความสำคัญที่จุดใดจุดหนึ่งก่อนน่าจะดีกว่าการให้ความใส่ใจกับหลายจุดพร้อมกัน  ประสิทธิภาพที่ได้ย่อมแตกต่างกันและผลตอบแทนที่ได้ก็จะแตกต่างกันด้วย   ลองดูครับ!  ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ” 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด