ซื้อแพงขายแพงกว่า

หลังจากนำเสนอบทความเรื่อง “ซื้อถูกขายแพง”   ไปแล้วก็จำเป็นต้องมาวิเคราะห์อีกกลยุทธ์หนึ่งชื่อ “ซื้อแพง ขายแพงกว่า”    เอ! ดูแล้วน่าจะขัดกัน อย่างนี้จะเชื่อแบบไหนดี?  ผู้อ่านอย่าเพิ่งสับสน  ค่อยๆ ทำความรู้จักกับกลยุทธ์ทั้งหมดไป   แล้วเราก็เลือกเอาแนวทางที่ใช่สำหรับเราไปใช้

การซื้อแพงขายแพงกว่านั้นเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนแนวโมเมนตัมใช้ในการลงทุน    เนื่องด้วยความเชื่อที่ว่าเงินนั้นมีต้นทุน    การนำเงินไปทิ้งไว้ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งและหุ้นตัวนั้นอยู่ในแนวโน้มลง (Low Trend) หรือแนวโน้มออกข้าง (Side Way Trend)  เป็นการเสียโอกาสที่มูลค่าของเงินจะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้การที่ราคาหุ้นลงหรือออกข้างนั้นไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าจะเป็นระยะเวลานานเท่าใด    อาจจะเป็น 1 เดือน  3 เดือน  6 เดือน  1 ปี  2 ปี  หรืออาจจะนานกว่านั้น            ดังนั้นเมื่อหุ้นอยู่ในสภาวะนี้นักลงทุนแนวนี้จะถือเงินสดเพื่อรอให้หุ้นตัวใหม่หรือตัวที่สนใจมีสัญญาณซื้อหรือมีสัญญาณทำจุดสูงขึ้น (Break)  พร้อมปริมาณ (Volume) จึงเข้าซื้อ

นอกจากนั้นการเข้าลงทุนจะรอให้มีสัญญาณซื้อที่ชัดเจน    ถ้าสัญญาณยังไม่ชัดเจนแต่มีโอกาสที่จะขึ้นสูงกว่าก็อาจมีบางคนเข้าไปเก็งกำไรระยะสั้นได้         ด้วยเหตุที่รอสัญญาณซื้อที่ชัดเจนจึงทำให้ต้นทุนนั้นจะสูงกว่ากลยุทธ์ซื้อถูกขายแพงแต่จะใช้ระยะเวลารอคอยที่สั้นกว่า

อย่างไรก็ตามการซื้อแพงขายแพงนั้นสัญญาณซื้อที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณที่ผิดพลาดหรือล้มเหลว (Failure)ได้   ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดและต้องมีควบคู่ไปกับการลงทุนวิธีการนี้คือการหยุดขาดทุน (Stop Loss)  (จะนำเสนอในโอกาสต่อไป) เพื่อรักษาเงินต้นไว้เพื่อนำมาทำกำไรในภายหลัง

สำหรับวิธีการซื้อแพงขายแพงกว่านี้   จำเป็นต้องฝึกการหยุดขาดทุนให้ดี   มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด   เพราะการปล่อยให้ราคาไหลลงไปนั้นจะทำให้การทำราคากลับมาเท่าเดิมนั้นยากกว่า  ตัวอย่างเช่นหุ้นลง 50% นั้น  ขาขึ้นกลับไปเท่าราคาเดิมจะเป็นสัดส่วน  100%

อย่างไรก็ดีการลงทุนทั้ง 2 กลยุทธ์ก็มีข้อดี  ข้อเสีย แตกต่างกัน  สำหรับวิธีซื้อถูกขายแพง จะได้หุ้นราคาถูกแต่ต้องถือเป็นระยะเวลานาน      ส่วนวิธีซื้อแพงขายแพงกว่านั้นจะได้ราคาหุ้นแพงกว่าแต่ใช้เวลารอคอยที่สั้นกว่า  ทั้งนี้วิธีใดจะดีกว่าผมก็คงบอกไม่ได้     แล้วแต่จริตของผู้อ่านครับ

ในส่วนตัวผมได้เคยทดลองทั้ง  2 วิธี     โดยได้ลองวิธีซื้อถูกขายแพง  ก็ดีในแง่ของการได้เงินปันผลแต่ราคาหุ้นนั้นบางตัวถือมา 2-3 ปีก็ยังต่ำกว่าต้นทุน คงต้องขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดด้วย       ส่วนซื้อแพงขายแพงกว่านั้นก็ได้กำไรในส่วนต่างราคาและก็มีตัดขาดทุนสลับกันไป   ถือว่าเป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาต่อไป

นอกจากนั้นหากผู้อ่านบางคนที่มีธุรกิจหรือมีช่องทางที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าอัตราปันผล    ก็ควรนำมาพิจารณาจัดสรรในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงอีกด้วย    ใส่ไข่ไว้ในตะกร้าหลายใบ อาจจะได้ผลตอบแทนลดลงแต่ได้ความปลอดภัยมากกว่า   หลับสบายอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ   ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ” 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด