การขยายหรือซื้อกิจการไปต่างประเทศ...จำเป็น?
ถ้าผู้อ่านได้ติดตามข่าวทางธุรกิจมาบ้าง...เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมามี
1 ข่าวใหญ่คือการที่บริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับเหล็กประสบปัญหาขาดทุนจนต้องปิดกิจการบริษัทในต่างประเทศ ส่งผลให้ธนาคาร 3 แห่งที่ร่วมกันปล่อยกู้ในโครงการนี้ต้องตั้งสำรองหนี้ ส่งผลต่อผลประกอบการและราคาหุ้นของทั้งหมดเป็นลูกโซ่
หากผู้อ่านที่ลงทุนมาสักระยะและเป็นนักลงทุนแนวโมเมนตัม คงชอบข่าวการขยายธุรกิจหรือซื้อกิจการเพิ่มเติมไปต่างประทศเพราะราคาหุ้นในช่วงที่ข่าวออกมานั้นส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น แต่สำหรับนักลงทุนแนววีไออาจจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ
ให้รอบด้าน
อย่างไรก็ตามการซื้อหรือขยายกิจการเพิ่มเติมไปต่างประเทศนั้นมีทั้งด้านบวกและลบ หากการเข้าซื้อแล้วช่วยเสริมธุรกิจ เช่น
ขยายตลาดหรือลดต้นทุนในการขนส่งหรืออัตราภาษีต่างๆ นับเป็นข้อดีต่อบริษัทนั้น
ในทางกลับกันหากซื้อหรือขยายเพิ่มแล้วรายได้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์คงส่งผลเสียเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เพราะการเพิ่มขนาดองค์กรนั้นมีภาระด้านต่างๆ
ตามมาด้วย เช่น ภาระทางการเงิน ค่าจ้างแรงงาน
ฯ
แม้ว่าการซื้อกิจการในอุตสาหกรรมเดียวกันกับที่ตัวเองดำเนินการก็ไม่สามารถการันตีได้
100%
ว่าธุรกิจจะประสบผลสำเร็จ
อาจเกิดจากสภาพแวดล้อม
วัฒนธรรมการกินอยู่ การบริโภคของประชาชนในพื้นที่ที่ต่างกัน
อย่างไรก็ดียังมีตัวแปรที่สำคัญก็คือภาวะเศรษฐกิจ แนวโน้มของธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน
หากผู้อ่านอยากทดลองลงทุนในบริษัทที่มีการซื้อหรือขยายกิจการไปต่างประเทศจำเป็นต้องพิจารณาในปัจจัยเหล่านี้ให้รอบด้าน
เนื่องด้วยเรากำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) คงมีหลายบริษัทที่จะขยายกิจการไปประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นเมื่อเข้าซื้อลงทุนแล้วจำเป็นที่ต้องติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบว่าการคาดการณ์ของเรานั้นถูกต้องหรือไม่?
อย่างไรก็ตามหากเราพิจารณาบริษัทที่ออกไปลงทุนต่างประเทศก็มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว
จึงเป็นเรื่องที่น่านำมาวิเคราะห์ดูว่าเพราะเหตุใดผลถึงเป็นเช่นนั้น
เพื่อที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับบริษัทที่เราสนใจและอีกหลายบริษัทที่กำลังจะขยายหรือซื้อกิจการใน
AEC
สำหรับหุ้นเหล็กตัวที่มีปัญหานี้ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน
ผมได้มีหุ้นตัวนี้ติดพอร์ตอยู่เหมือนกัน
ตอนนั้นที่ซื้อเพราะเห็นว่าหุ้นมี P/BV ที่ถูกจึงซื้อไว้
และได้ขายไปก่อนที่จะมีข่าวไปเทกโอเวอร์กิจการที่ประเทศอังกฤษ
เพราะผมไม่แน่ใจว่าการลงทุนนั้นจะได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่?
จากการติดตามดูงบการเงินอยู่ห่างๆ ก็ไม่ได้กลับเข้าไปลงทุนอีก ถือว่าผมมีโชคเล็กน้อยเพราะช่วงนั้นผมก็เพิ่งลงทุนได้ไม่นาน แต่จากนี้ไปผมเชื่อว่าเราคงไม่อาจหลีกเลี่ยงบริษัทที่จะขยายการลงทุนหรือซื้อกิจการไปต่างประเทศได้เพราะตลาดกำลังจะใหญ่ขึ้น
การแข่งขันกำลังสูงขึ้นตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้นักลงทุนคงต้องฝึกวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตของบริษัทที่จะขยายหรือซื้อกิจการไปต่างประเทศไว้เพื่อชิงความได้เปรียบ
และพัฒนาให้เข้ากับการลงทุนในแนวทางของตนเองทั้งแบบโมเมนตัมและวีไอ
จากเนื้อหาที่นำเสนอมาทั้งหมดจะพบว่าการทำสิ่งใดๆ อาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้ แต่การได้ลงมือทำแล้วนั้นมีสิ่งที่ได้แน่นอนอยู่อย่างหนึ่งคือประสบการณ์
เมื่อโอกาสมาเราต้องพร้อมคว้าไว้ทันที ช่วงนี้ยังไม่มาก็ต้องฝึกวิทยายุทธ์ ลับมีดกันต่อไป... พากเพียรๆๆ ขอให้โชคดี
มีสติครับ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น