จดบันทึก...เพื่ออนาคต

เมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมาผมได้ชมรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการขายอาหารตามสั่งของคนรุ่นใหม่    ซึ่งได้สืบทอดกิจการจากแม่ที่เสียชีวิตลง      ต้องขอแสดงความชื่นชมที่บุคคลนี้ยังมีแนวคิดที่จะสืบสานกิจการของครอบครัว  มีความกล้าที่จะทำธุรกิจส่วนตัวต่อไปโดยลำพังและขอบอกว่ารายได้ดีกว่าทำงานประจำอีกด้วย

ระหว่างที่ชมรายการมีประเด็นที่น่าสนใจตรงที่เคล็ดลับหรือสูตรในการประกอบเป็นรายการอาหารต่างๆ นั้นเช่น แกง ยำ ผัดต่างๆ    ผู้เป็นแม่ได้ทำการจดบันทึกไว้อย่างละเอียดทั้งเครื่องปรุงและวิธีการปรุงตลอดช่วงอายุการทำงานที่ผ่านมาโดยอาจหวังว่าจะเป็นมรดกให้ลูกหลานสืบต่อไป

หากผู้อ่านเป็นคนจีนหรือค้าขายเกี่ยวกับอาหารจะทราบทันทีว่าตำรับหรือสูตรในการทำอาหารเป็นความลับทางการค้า    ซึ่งจะไม่เปิดเผยง่ายๆ  เปรียบเหมือนเครื่องมือทำมาหากิน    บางครั้งต้องมีการซื้อสูตรกันเป็นมูลค่ามหาศาล   หรือนำไปขายเป็นเฟรนไชส์สร้างความมั่งคั่งได้อีกด้วย

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการชี้ให้เห็นประโยชน์ของการจดบันทึกรูปแบบหนึ่ง    การจดบันทึกนั้นสามารถทำได้กับชีวิตประจำวันและมีคุณประโยชน์หลายอย่าง เช่น บันทึกรายรับ รายจ่าย  การลงทุน  การทำธุรกิจ  นัดหมาย ความทรงจำ  บันทึกการเดินทาง  บันทึกประวัติการซ่อมบำรุงรถยนต์ ฯ

ด้วยเหตุที่การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลมีเรื่องต่างๆ ผ่านเข้ามามากมาย  จากวันเป็นเดือน  จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นหลายปี     ทำให้เราไม่สามารถที่จะจดจำได้ทุกเรื่องอย่างแน่นอน   เก็บสมองไว้ไปทำเรื่องอื่นที่สำคัญจะดีกว่า   

ตัวอย่างเช่นการบันทึกรายรับ รายจ่าย นั้นจะช่วยให้เราสามารถทราบถึงภาวะทางการเงินของตัวเอง    หากมีรายจ่ายมากกว่ารายรับก็สามารถย้อนกลับไปดูได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด?   มีการใช้จ่ายเกินตัวหรือไม่  ฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งใด   นอกจากนั้นเรายังนำข้อมูลมาวิเคราะห์  วางแผนแก้ปัญหาหรือวางแผนสำหรับอนาคตได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนการจดบันทึกจะช่วยให้เราทราบถึงผลกำไรและขาดทุนในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด    หากพึ่งแต่โปรแกรมสตรีมมิ่งเมื่อเราซื้อขายไปแล้วข้อมูลจะหายไป    หรือใช้เอกสารยืนยันการซื้อขายจากโบรกเกอร์นั้นอาจทำหายหรือการเรียกดูข้อมูลค่อนข้างยาก   

การบันทึกข้อมูลจะช่วยในการวิเคราะห์รูปแบบการลงทุนของเรา  เช่นหากผู้อ่านเป็นนักลงทุนแนวโมเมนตัม เมื่อมีสัญญาณซื้อก็เข้าซื้อ  เมื่อมีสัญญาณขายก็ขาย  เราจะพบว่ามีกำไรหรือขาดทุน  หากเป็นแนววีไอจะทำให้ทราบเวลานานเท่าใดในการถือลงทุนและอัตราปันผล    จะได้เลือกได้ว่าเราเหมาะกับการเป็นนักลงทุนแบบใด?

โดยผมได้เห็นประโยชน์จากการบันทึกหลายอย่างทั้งการบันทึกรายรับ รายจ่าย  ทรัพย์สิน หนี้สิน  การลงทุน  ท่องเที่ยว  ประวัติการซ่อมรถยนต์    ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคือการบันทึกประวัติการซ่อมรถยนต์  จะทำให้เราเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายใดบ้าง   และรอบของการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่เป็นอย่างไร   เราสามารถคาดการณ์และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้

อย่างไรก็ดีในส่วนของการลงทุนผมเริ่มบันทึกตั้งแต่ตัวแรกที่เข้าลงทุนจนถึงปัจจุบัน    ดังนั้นผมจึงรู้ข้อมูลทุกตัวที่เคยเข้าไปลงทุน  วันที่เข้าซื้อขาย กำไร ขาดทุน    ผมนำมาวิเคราะห์เพื่อหารูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับจริตของผมต่อไป   

มาถึงตรงนี้หากผู้อ่านมีคำถามว่าจะบันทึกอย่างไร?   ผมคงดีใจเล็กๆ ที่ได้จุดประกายให้ผู้อ่าน   ในส่วนตัวผมก็ทำการบันทึกผ่านโปรแกรม Excel  อย่างง่ายๆ หรือใส่สมุดให้ตัวเองดูเข้าใจ   เพราะเราไม่ได้เอาไปอวดใครอยู่แล้ว  ดังนั้นผู้อ่านก็บันทึกไปตามความเข้าใจ  ไม่ต้องถึงกับไปเรียนบัญชีหรอกนะครับ...

ฝนฟ้ากำลังตก  หมดหน้ากระดาษเสียแล้ว เขียนกำลังเพลินเชียว   บล็อกแห่งนี้ก็เป็นรูปแบบหนึ่งในการบันทึกของผม  เรากลับมาย้อนดูได้  ตอนนั้นพลาดตรงนี้เพราะความรู้อาจจะยังไม่ถึงแต่ต้องพัฒนาต่อไป   การบันทึกมีประโยชน์  ผมยังไม่เห็นโทษ อาจจะเปลืองเวลาสักนิด เพื่ออนาคตที่ดีของคุณ...  ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด