การวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อใช้ในการลงทุน

บทความที่ผ่านมาได้นำเสนอเกี่ยวกับการจดบันทึก..เพื่ออนาคตที่ดี  ได้แสดงถึงคุณประโยชน์และตัวอย่างง่ายๆ   โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้านของชีวิต    ในบทความนี้จะเจาะลึกลงไปเกี่ยวกับการนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์เพื่อใช้ในการลงทุน

บทความที่แล้วได้กล่าวถึงการจดบันทึกการซื้อขายหุ้นช่วยทำให้ทราบถึงวันเวลา  ผลกำไรขาดทุน  รวมทั้งสามารถนำหุ้นเหล่านั้นไปทำการวิเคราะห์ได้ด้วยว่ารูปแบบที่เราใช้ในการลงทุน เช่นแนววีไอ แนวโมเมนตัมหรือแบบผสมนั้น  รูปแบบใดให้ผลตอบแทนที่ดีและเหมาะกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้

ทั้งนี้จะพบว่าข้อมูลที่ได้จากการบันทึกอยู่ในรูปแบบสถิติซึ่งเราสามารถนำมาวิเคราะห์ให้เหมาะกับจริตของเราได้      นอกจากนั้นข้อมูลหรือสถิติเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นนั้นยังมีอยู่ในรูปแบบอื่นๆ เช่น งบการเงินในเว็บไซต์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(http://market.sec.or.th/public/idisc/th/FinancialReport/FS)

อย่างไรก็ตามด้วยข้อมูลที่มีมากเราสามารถที่จะนำข้อมูลเฉพาะส่วนที่สนใจไปใช้  ตัวอย่างเช่น นำข้อมูลเฉพาะรายได้ กำไรสุทธิ หรือ กำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น ย้อนหลังไป 5 ปี   มาจัดทำในรูปแบบไฟล์ Excel  ทำให้เห็นถึงแนวโน้ม (Trend) ของผลประกอบการณ์   ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ง่ายขึ้น

หากผู้อ่านได้ศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนทางด้านเทคนิคหรือดูกราฟมาบ้าง   เราสามารถดูข้อมูลในอดีตจนถึงปัจจุบันได้ทั้งในระยะรายปี  ไตรมาส เดือน วัน ชั่วโมง นาที   การดูข้อมูลย้อนหลังได้นี้ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมในอดีตที่ผ่านมาของหุ้นตัวนั้นว่าเป็นอย่างไร?  มีการไล่ราคา  ปั่นหุ้น หรือมีการทุบหุ้นหรือไม่

ทั้งนี้กราฟหุ้นก็เป็นอีกแขนงหนึ่งของสถิติจากการรวบรวม ราคา ปริมาณ ของหุ้นต่างๆ  จึงได้มีการศึกษาและนำทฤษฎีต่างๆ มาใช้ในการวิเคราะห์หุ้นนั้นๆ  เช่นเส้นแนวโน้ม  รูปแบบการกลับตัว  รูปแบบต่อเนื่อง  แนวรับ  แนวต้าน หรือทฤษฎีดาว (dow theory) ฯ แล้วนำมาคาดการณ์อนาคต

การนำข้อมูลทางสถิติมาใช้นั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อของบุคคลนั้นๆ ว่าจะเชื่อทฤษฎีใด  ไม่มีใครสามารถการันตีอนาคตได้ว่าจะเป็นเหมือนเดิมตลอดไป   เปรียบเหมือนการดูหมอที่อาศัยหลักการทางสถิติของคนในราศีหรือวันเวลาเกิดนั้นๆ มาทำนายอนาคต (ผมรู้จักเพื่อนที่เกิดวันเดียวกันกับผม 2 คน ไม่เห็นเหมือนกันเลย ฮ่าๆ)

อย่างไรก็ดีอนาคตนั้นยังมีปัจจัยต่างๆ เข้ามาประกอบด้วย  หรือมีปัจจัยใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป  ทำให้สถิติเดิมเปลี่ยนไปจึงต้องทำการบันทึกเป็นสถิติเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ในคราวต่อไป   ทั้งนี้สถิติในอดีตทำให้เห็นถึงแนวโน้มในอนาคต  แต่อนาคตนั้นจะเป็นอย่างไรต่างหากที่เราควรให้ความสำคัญ

ทั้งนี้เพราะการซื้อหุ้นนั้นคือการซื้ออนาคตไม่ใช่การลงทุนในอดีตที่ผ่านมา   เพียงแต่ว่าสถิติในอดีตก็บอกถึงประสิทธิภาพของหุ้นที่ผ่านมาได้   เราจึงต้องฝึกมองแนวโน้ม คาดการณ์และติดตามผลประกอบการ (บทความ “ฝึกคาดการณ์การเติบโต...” 10 สิงหาคม 2558, http://freedomlife-2014.blogspot.com/2015/08/blog-post_10.html)

ถึงแม้ว่าสถิติจะไม่สามารถการันตีอนาคตได้ 100% แต่ก็ยังช่วยให้เรามีหลักยึดอยู่บ้างว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร    ผมก็ยังเชื่อว่าดีกว่าที่เราสู้แบบไม่รู้อะไร   การฝึกวิเคราะห์ทางสถิติเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ผู้อ่านควรจะศึกษาและพัฒนานำมาใช้ประโยชน์ในการลงทุน...  ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”          

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด