แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด
นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ตื่นเช้าสบายๆ ไม่ต่องรีบเร่ง
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมซึ่งมีบริการไว้ให้ พร้อมสรรพ หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เดินทางกันต่อ ในยามเช้าแบบนี้เริ่มต้นด้วยการไปนมัสการพระพุทธรูปหินอ่อนที่อำเภอแม่ระมาดกันก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล
ขับขี่รถจักรยานต์ไปตามถนนเส้นแม่สอด-แม่ระมาด โดยระยะทางประมาณ 30 กม. ถนนค่อนข้างดี
เส้นทางนี้สามารถเดินทางไปต่อได้หลายจังหวัด เช่นแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่
พระพุทธรูปหินอ่อนวัดดอนแก้ว
ตั้งอยู่ที่หลังที่ว่าการอำเภอแม่ระมาด
จากคำบอกเล่ากันมา
พระพุทธรูปหินอ่อนนี้เป็นปฏิมากรรมของชาวพม่า
ซึ่งแกะสลักด้วยหินอ่อนทั้งแท่งและได้แกะสลักพร้อมกัน 3 องค์ องค์แรกประดิษฐานที่อินเดีย องค์ที่สองประดิษฐานที่ปากีสถานและองค์ที่สามอตั้งยู่ที่วัดดอนแก้วแห่งนี้
องค์พระมีความสวยงามสมคำร่ำลือ บรรยากาศในวัดก็เงียบสงบดี แต่ดูโดยรอบแล้วน่าจะเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาสักการะมากวัดหนึ่ง
หลังจากนั้นก็ขับรถกลับมาทางแม่สอดโดยได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทาง โดยเริ่มจากบ่อน้ำพุร้อนแม่กาษา ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่กาษา ห่างจากแม่สอดประมาณ 21 กม.
ทั้งนี้บ่อน้ำพุร้อนนี้ได้ปลูกต้นไม้ครอบคลุมพื้นที่ทำให้เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น ใช้สำหรับพักผ่อนได้ดีทีเดียว
นอกจากนั้นบริเวณใกล้กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งคือ ถ้ำแม่อุษา การเข้าไปชมถ้ำนี้ต้องติดต่อไกด์ท้องถิ่นเพื่อพาเข้าไปชม ผมไม่ได้เข้าไปด้านในจึงไม่มีภาพภายในถ้ำมาฝาก
ถัดไปอีกประมาณ 4-5 กม. มีน้ำตกแม่กาษา
ตั้งอยู่
ซึ่งจากภายนอกที่เห็นเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก นั่งพักใต้ต้นไม้หลบร้อนและชมน้ำตกสักพัก
หลังจากนั้นไปไหว้พระเจ้าทันใจรัตนมุงเมือง
วัดไทยสามัคคี
ชมพิพิธภัณฑ์และสถาปัตยกรรม
บรรยากาศโดยรอบวัดมีนักท่องเที่ยวหนาตาเพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอแม่สอด ประมาณ 9 กม. มีเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ช่วยทำให้รู้สึกสบายๆ
ออกจากวัดนี้บ่ายกว่าๆ กลับเข้าสู่ตัวเมืองแม่สอด แวะรับประทานขนมจีนขยุ้มร้านดัง
ต้องแวะชิมสักหน่อยเดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง เมื่ออิ่มท้องแล้วช่วงบ่ายหลบอากาศร้อนเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนเอาแรงอีกสักหน่อย ขี่จักรยานยนต์ในตอนกลางวันแดดเปรี้ยงๆ
นี่ร้อนจริงๆ เห็นใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ครับ
ช่วงบ่าย
3-4 โมงเย็นก็เดินทางไปกันต่อที่วัดพระธาตุดอยหินกิ่ว
หรือวัดพระธาตุหินกิ่ว ดอยดินจี่ อยู่ที่ตำบลท่าสายลวด
ไม่ไกลจากตัวแม่สอดมากนัก วัดนี้มีพระธาตุประดิษฐานอยู่ในสถูปเจดีย์
ตั้งอยู่ยอดเขา เดินขึ้นไปถึงยอดเขาเล่นเอาเหนื่อย
เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบแต่มีผมอยู่คนเดียวจึงอยู่ได้ไม่นานนัก..แอบกลัว ฮ่าๆ
ขากลับออกมาได้แวะไหว้พระที่วัดคอกช้างเผือก
ซึ่งเป็นศิลปกรรมแบบเมียนมาร์และชมวิวแม่น้ำเมยและประเทศเพื่อนบ้านจากมุมสูง
สุดท้ายของวันนี้ได้แวะวัดไทยวัฒนาราม แต่มาถึงช่วงใกล้ค่ำทำให้โบสถ์ปิดไปแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้นมัสการพระ แต่ได้เก็บรูปสถาปัตยกรรมภายในวัดมาฝาก ขอบอก 3 คำว่า “สวยงามมาก”
การเดินทางสำหรับวันนี้ได้ไปท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้เก็บรูปมาฝากท่านผู้อ่าน เต็มอิ่มหรือไม่? ถ้าท่านใดสนใจก็ลองหาโอกาสไปดูสถานที่จริงจะได้รับอรรถรสครบถ้วนกว่า การเดินทางของผมในทริปนี้ยังไม่จบ ตอนสุดท้ายในบทความหน้าที่ตัวเมืองแม่สอด ตามกันต่อสัปดาห์หน้านะครับ ขอให้โชคดี มีสติครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น