แบกเป้ไปเที่ยวแม่สอด
3-4 บทความที่ผ่านมาเป็นซี่รี่ส์ที่ผมได้ออกเดินทางไปเที่ยวที่
จ.ตาก ในช่วงใกล้สิ้นปี
โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์เต็ม
บทความนี้เป็นตอนสุดท้ายของทริปที่ได้ท่องเที่ยวที่ตัวเมืองแม่สอดและสัมผัสกับผู้คนหลายเชื้อชาติ ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่แปลกตาไปจากการอยู่แต่พื้นที่ปลอดภัย
(Comfort zone) ของตัวเอง
หลังจากบทความก่อนได้ไปเที่ยวจาก อ.แม่ระมาด
ล่องกับมา อ.แม่สอด
วันนี้ก็วางแผนเที่ยวอยู่ในตัวเมืองแม่สอดดังนั้นจึงไม่ต้องตื่นเช้ามากนักเพราะระยะทางไม่ไกลมาก
เริ่มต้นด้วยการไปไหว้พระเช่นเดิม ณ. วัดชุมพลคีรี
เห็นชาวเมียนมาร์ตั้งใจสวดมนต์ ไม่แปลกใจที่บ้านเมืองเขามีเจดีย์มากมาย
แล้วก็ไปไหว้พระต่อที่วัดมณีไพรสณฑ์
พระประธานในโบสถ์สวยงามและชื่นชมสถาปัตยกรรมโดยรอบวัด
ต่อไปแวะไหว้ศาลเจ้าหลักเมืองแม่สอด
ศาลเจ้าพระวอ เล่ากันว่าท่านเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงแต่งตั้งให้เป็นนายด่านอยู่ที่ด่านแม่ละเมาเพื่อคอยป้องกันข้าศึกมิให้ข้ามเข้ามาได้ ในส่วนของเสาหลักเมืองกำลังบูรณะสถานที่อยู่
จากนั้นช่วงเที่ยงถึงบ่ายๆ ผมได้แวะไปที่โรบินสัน
(แม่สอด) ซึ่งเพิ่งเปิดเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเปิดให้บริการ 2 ชั้นและมีโรงภาพยนต์ด้วย ทั้งนี้มีผู้คนมากมายทั้งชาวบ้าน นักเรียน
รวมถึงชาวเมียนมาร์มาจับจ่ายใช้สอยกันหนาตาแม้จะเป็นช่วงเวลาทำงาน
ช่วงบ่ายหาที่หลบแดดร้อนๆ สักหน่อย
พอบ่ายแก่ๆ ก็ไปลุยกันต่อ ถ้าไปที่แม่สอดไม่ถ่ายรูปนี้เดี๋ยวเขาจะว่าไปไม่ถึง
“สุดประจิมที่ริมเมย” ที่นี่คือตลาดริมเมยครับ มีสินค้าหลากหลายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า งานหยก
งานไม้ ของกินเล่น ฯลฯ
ตลาดนี้ตั้งอยู่ติดสะพานข้ามแม่น้ำเมยที่ไปเมืองเมียวดี
เนื่องด้วยผมเดินทางมาคนเดียวจึงไม่ได้วางแผนข้ามฝั่งไปเมืองเมียวดี จึงไม่มีภาพมาฝาก
อย่างไรก็ตามจากการมาพักอยู่ที่แม่สอด 3 วัน 2 คืน ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่นี่ค่อนข้างคึกคักทั้งชาวเมียนมาร์ที่ข้ามฝั่งมาซื้อสินค้ากลับไป รวมถึงนักท่องเที่ยวที่แวะมาซื้อของฝาก ส่วนการขนส่งมวลชนที่ขนส่งแม่สอดนั้นส่วนใหญ่ชาวเมียนมาร์จะใช้บริการค่อนข้างหนาตาเพื่อเดินทางเข้ามาทำงานในบ้านเรา
นอกจากนั้นยังมีรถโดยสารบริการ แม่สอด-มุกดาหาร ตามระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก-ตะวันออกแล้วด้วย ขยายรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีคนใช้บริการหนาตาทีเดียว
ในส่วนสนามบินแม่สอดขณะนี้มีให้บริการอยู่สายการบินเดียวคือ นกแอร์
ที่ผมตามข่าวมาทราบว่ารัฐบาลมีแผนจะขยายสนามบินที่แม่สอดเพื่อรองรับการเติบโตเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เขตเศรฐกิจพิเศษที่กำลังจะเปิดนั้นครอบคลุมพื้นที่
3 อำเภอคือ อ.แม่สอด
อ.แม่ระมาด และอ. พบพระ จากการประเมินของผมคาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรอบนอกที่อยู่นอกแม่สอดขยายตัวดีขึ้นมากตามลำดับ ส่วนตัวแม่สอดนั้นคงไม่ต้องพูดถึง คงจะเฟื่องฟูขึ้นอีกมาก
โดยในช่วงเย็นผมได้เดินทางไปยังศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเพื่อสักการะบูชาเป็นแห่งสุดท้าย ทั้งนี้ด้านในเป็นเหมือนสวนสาธารณะเล็กๆ สามารถพักผ่อนได้ หลังจากนั้นช่วงมืดก็เดินทางกับด้วยรถโดยสาร
บขส.
การเดินทางของผมในทริปนี้ก็จบลง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ท่องเที่ยว
ได้เห็นวัฒนธรรมที่ต่างออกไป
ฝึกความอดทน ฝึกแก้ปัญหาเฉพาะ ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ
ช่วยทำให้มีพลังในการขับเคลื่อนชีวิตไปสู่เป้าหมายต่อไป แล้วตอนนี้ผู้อ่านพลังยังเต็มถัง? เหนื่อก็พัก.. หายเหนื่อยแล้วก็ลุยกันต่อ ขอให้โชคดี มีสติครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น