เลสเตอร์เป็นแชมป์..ใครจะเชื่อ

สำหรับวงการฟุตบอลคงไม่มีใครที่ไม่กล่าวถึงเรื่องที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้  คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ มาครอบครองในปีนี้ได้ (ฤดูกาล 2015-2016) สำเร็จ    จะเรียกว่าปาฏิหารย์คงไม่ผิดนัก   รวมถึงเป็นที่สนใจของคนไทยที่ไม่ใช่คอฟุตบอลมากขึ้นทวีคูณเนื่องด้วยเจ้าของเป็นคนไทยนั่นเอง

อันดับแรกคงต้องขอแสดงความยินดีกับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ หรือสมญานาม “จิ้งจอกสยาม”  แฟนบอลและผู้บริหารของทีมที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกของสโมสรตั้งแต่ก่อตั้งมา 132 ปี    โดยอีกทางหนึ่งก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย  ด้วยฝีมือการบริหารจัดการของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรีคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา

ด้วยระบบการบริหารจัดการแบบ “เถ้าแก่ที่ใจถึงพึ่งได้”  และมีการอัดฉีดเงินในแต่ละนัดหรือการยิงประตูได้  ซึ่งแตกต่างจากการบริหารแบบชาวตะวันตกที่ไม่มีการอัดฉีดใดๆ เพราะเจ้าของคิดว่าจ่ายค่าจ้างแพงอยู่แล้ว  อาจส่งผลให้ขวัญ กำลังใจมีน้อย ไม่มีแรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจในการเล่นมากนัก

อีกทางหนึ่งที่กระแสมาแรงมากคือ “ผ้ายันต์แพ้ไม่เป็น” ของเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร   ที่ได้รับการกล่าวถึงในวงกว้างทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ เล่นข่าวความศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยให้เลสเตอร์เป็นแชมป์ได้  ด้วยเพราะไม่มีใครคาดคิด    ถึงขนาดที่บ่อนการพนันถูกกฎหมายในอังกฤษตั้งราคาต่อรองให้เลสเตอร์เป็นแชมป์ถึง 5,000 ต่อ 1

หากใครไม่เสียดายเงินในช่วงเปิดฤดูกาล เสี่ยงไว้สักหน่อยคงได้เป็นเศรษฐีน้อยๆ กันบ้าง ฮ่าๆๆ   แต่คงมีคนไม่มากนักที่กล้าจะเสี่ยงเพราะโอกาสน้อยมากจริงๆ   เพราะฤดูกาลที่แล้วเลสเตอร์ยังหนีตกชั้นอยู่เลย  ประกอบกับ 4 ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกก็ลงทุนซื้อนักฟุตบอลด้วยงบประมาณมหาศาลเพื่อหวังจะคว้าแชมป์ให้ได้
เราคงต้องมาดูเบื้องหลังความสำเร็จกันสักหน่อย  ทีมเลสเตอร์มีการวิ่งที่เร็ว ไล่ตามลูกบอล ประกบคู่ต่อสู้ตลอดเกม    ทั้งนี้ข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี  รายงานว่าเลสเตอร์มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาสร้างทีมให้แข็งแกร่ง  
จากสถิติพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทีมเลสเตอร์มีผู้เล่นบาดเจ็บน้อยที่สุด เปลี่ยนผู้เล่นน้อยที่สุด วิ่งเร็วที่สุดมีโอกาสยิงประตูมากที่สุด  โดยถูกฝึกให้วิ่งด้วยความเร็วสูงในระยะทางสั้นๆ เพื่อสปีดความเร็วให้ทันลูกบอลในเกมโดยเฉพาะเซ็นเตอร์ฮาล์ฟต้องสปีดได้เร็วที่สุด
ทีมเลสเตอร์ทำความเร็วได้สูงสุด 35.44 กม.ต่อชั่วโมง ในระยะทาง 500 เมตร นอกจากนั้นยังถูกฝึกให้สร้างความแข็งแกร่งแก่ เอ็นร้อยหวายให้สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 350-500 กิโลกรัม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บขณะเล่น (ไทยรัฐ  “เบื้องหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก” ลมเปลี่ยนทิศ 7 พ.ค. 2559)
จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าการที่เลสเตอร์ได้แชมป์นั้นไม่ใช่เพียงแค่ได้ผ้ายันต์เพียงอย่างเดียวแล้วไม่ทำอะไร แต่มีการหมั่นฝึกซ้อม ฝึกฝน พัฒนาตนให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วย  สุดท้ายความสำเร็จอันหอมหวานที่ได้จากความเพียรพยายามก็สัมฤทธิ์ผล
อย่างไรก็ดีในแง่ของการลงทุนก็คงไม่ต่างกันนัก   หากเราเพียงแค่ฟังนักวิเคราะห์ อาจารย์หุ้นสำนักใด หรือใครๆ บอกว่าหุ้นตัวนั้นๆ ดีแล้วเข้าลงทุนโดยขาดความรู้   ความเข้าใจ  ไม่พยายามศึกษาหาความรู้  พัฒนารูปแบบการลงทุนของตัวเอง   อาจทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนหรือได้รับความเสียหายได้
แต่ในทางกลับกันหากเราได้รับคำแนะนำจากผู้อื่น ผนวกกับเราทำการศึกษาเพิ่มเติมด้วยนั้นย่อมเป็นการดี  ทำองค์ประกอบของความสำเร็จให้ครบถ้วน   เมื่อเวลาหรือโอกาสมาถึงผมเชื่อว่าความสำเร็จจะอยู่ในกำมือ “พวกเราจะได้เป็นแชมป์แบบเลสเตอร์บ้าง”

หากทีมเลสเตอร์สามารถพัฒนาตนเองจากทีมหนีตกชั้นมาเป็นแชมป์ได้   แล้วทำไมเราจะพัฒนาตนเองจากผู้ไม่รู้ ไปสู่ผู้ที่มีความรู้และประสบความสำเร็จบ้างไม่ได้?   อย่าประเมินศักยภาพของตัวเองต่ำเกินไปนะครับ  เรามีวิวัฒนาการแบบทุกวันนี้ได้เพราะเราไม่ยอมแพ้...สู้ๆ   ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ” 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด