บินเดี่ยวเที่ยวนครพนม 2

เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง รับประทานอาหารเช้าจากที่พัก แล้วออกเดินทางไปนมัสการพระธาตุท่าอุเทน  พระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันศุกร์  ที่อำเภอท่าอุเทน  ซึ่งห่างจากตัวมืองนครพนมประมาณ 28 กิโลเมตร    ตั้งอยู่ริ่มฝั่งแม่น้ำโขง   ยามเช้าแดดอ่อนๆ สลับครึ้มฟ้าครึ้มฝน ขี่จักรยานยนต์ชมวิว 2 ข้างทาง บรรยากาศดีจริงๆ


องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม  สร้างเป็น 3 ชั้น  บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง  ประเทศพม่า สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2455  


หลังจากนั้นได้เดินทางกลับเข้าตัวเมืองนครพนม  ระหว่างทางได้แวะชมทิวทัศน์ที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3   โดยรอบบริเวณมองเห็นกระชังเลี้ยงปลา  ร้านอาหารและเป็นสถานที่นั่งพักผ่อน  ถ่ายรูป  ชมแม่น้ำโขง  แต่ช่วงเวลาเย็นน่าจะเหมาะกว่า


จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านลุงโฮจิมินท์  (ถ้าไม่ไป เดี๋ยวใครๆ เขาจะว่าไปไม่ถึง ฮ่าๆ) ที่บ้านนาจอก ซึ่งอย่ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 5 กิโลเมตร   ดูสารคดีมาหลายครั้งหลายครา   ต้องไปเยี่ยมชมให้เห็นกับตาสักหน่อย


สถานที่แรกคือ พิพิธภัณฑ์ประธานโฮจิมินห์   หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม  เป็นอาคาร 2 ชั้น   แสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ  


สถานที่ที่ 2 อยู่ติดกันคือ อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์





อีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ไกลกันนักคือ บ้านลุงโฮจิมินห์   ที่นี่ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ดูแลบ้านซึ่งเป็นลูกหลานนายพลทหารชาวเวียดนามท่านหนึ่งที่ชักชวนประธานโฮจิมินห์มาอยู่ที่นี่    ได้เล่าถึงประวัติของการต่อสู้ของบรรพบุรุษและประธานโฮจิมินห์

นอกจากนั้นผู้ดูแลบ้านยังบรรยายถึงความอึดอัดจากการที่บ้านลุงโฮจิมินห์นี้เป็นที่ดินส่วนบุคคล  ทำให้การช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องดูแลรักษาด้วยเงินส่วนตัว   รวมถึงมีการสร้างสถานที่ใหม่ๆ ในบริเวณใกล้เคียงส่งผลให้ผู้มาเยือนเกิดความสับสนอีกด้วย

สนทนากันได้ครู่ใหญ่ๆ  ผู้เขียนขอตัวกลับ   ซึ่งเป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี  ทางผู้ดูแลบ้านได้แนะนำร้านนางแหนมเนือง   ไหนๆ... คนพื้นที่แนะนำทั้งทีก็ต้องไปลองสักหน่อย   สั่งแหนมเนืองมากินคนเดียวซะอย่างนั้น เห็นโต๊ะอื่นเข้ามาเป็นกลุ่มๆ  ก็แปลกไปอีกแบบ..ฮ่าๆ อร่อยดี   แอร์เย็นฉ่ำ ได้นั่งพักหลบร้อนไปในตัว         

หลังจากอิ่มท้องแล้วก่อนออกเดินทางกันต่อ   โดยตระวนไหว้พระตามวัดต่างๆ เรียบริมฝั่งแม่นำโขงไปเรื่อยๆ  ซึ่งอยู่ติดๆ กันไล่ตั้งแต่วัดโพธิ์ศรี วัดกลาง วัดมหาธาตุ วัดพระอินทร์แปลง  เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดจึงขอลงรูปรวมๆ กัน..เด่อ 




ช่วงเย็นเป็นเวลาที่ผู้เขียนรอคอยเนื่องจากเมื่อวานเห็นเรือสำราญล่องชมแม่น้ำโขงและวิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งแม่น้ำ    โดยมีเรือของเทศบาลนครพนมและของเอกชนให้บริการ      เรือของเทศบาลจอดอยู่เขื่อนริมแม่น้ำโขง  หน้าตลาดอินโดจีน  เรือออกทุกวัน เวลา 17.00 น. ค่าโดยสารคนละ 50 บาท ใช้เวลาประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง


นั่งกินลมชมวิว กินบรรยากาศไปเรื่อยๆ  ปล่อยใจ ปล่อยอารมณ์ไปกับสายน้ำและริมฝั่งแม่น้ำทั้งฝั่งไทย-ลาว  จนพลบค่ำ  ฟ้าแลบ ฟ้าร้องมาแต่ไกล..ฝนน่าจะตกหนัก   หาอาหารเย็นรับประทานกินก่อนกลับเข้าที่พักแห่งใหม่ซึ่งมีทัศนียภาพที่ดีกว่าคืนแรกที่อยู่ในตัวเมือง    กลางคืนฝนตกตามคาด...หลับสบายเชียว

แล้ววันที่ 2 ก็จบลงแต่การเดินทางของผมยังไม่จบ  จะเดินทางไปไหนต่อ?...ตามกันนะครับ ขอให้โชคดี..มีสติ

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”          

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด