แบกเป้ไปไหว้พระธาตุพนม
เช้าวันที่ 3 ของทริป อากาศดีมากหลังจากผ่านคืนที่ฝนตกมา ออกไปรับประทานอาหารเช้าบริเวณลานพนมนาคาเรียบแม่น้ำโขง ร้านเรือนรับรองตามคำแนะนำของผู้ดูแลห้องพักที่วันก่อนไปขอดูห้อง จึงต้องลองไปชิมอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม
ไข่กระทะและขนมปังฝรั่ง อาหารอร่อย
อากาศก็ดี แถมได้วิวริมน้ำโขงอีก...
จากนั้นได้เดินทางไปไหว้พระที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม
ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารเช้ามากนัก
แต่เสียดายที่ไปช่วงเช้าโบสถ์ยังไม่เปิดหรืออาจจะเปิดเฉพาะวันพระหรือไม่? ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจ
ต่อจากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
โดยมองจากภายนอกสถาปัตยกรรมของหอสมุดแห่งนี้มีความสวยงามทีเดียว รูปภายในผู้เขียนไม่ได้ถ่ายรูปมาให้รับชมต้องขออภัย
นอกจากนั้นยังได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
(หลังเก่า)
เพื่อให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครพนม รวมถึงประเพณีไหลเรือไฟ
หลังจากนั้นกลับเข้าที่พัก
พักผ่อนอีกเล็กน้อยก่อนเดินทางเข้ากลางใจเมือง นำรถจักรยานยนต์ที่เช่ามาไปคืนที่ร้าน แล้วเดินทางต่อไปที่อำเภอธาตุพนมด้วยรถสองแถว
ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นครพนม ช้าหน่อย..แต่จะได้เห็นชีวิตชาวบ้านระหว่างทางไปด้วย
อนึ่งมีรถตู้โดยสารให้บริการจากนครพนมไปมุกดาหารโดยผ่านอำเภอธาตุพนมด้วย
ใช้เวลาเร็วกว่ารถสองแถวซึ่งให้บริการที่สถานีขนส่ง แต่ท่ารถสองแถวจะอยู่บริเวณตลาด ถนนจากตัวเมืองนครพนมไปที่อ.
ธาตุพนมจะเรียบริมน้ำโขงไปเรื่อยๆ ลงไปทางใต้
หากต้องการไปไหว้พระธาตุเรณู
ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเรณูนคร
ใช้เส้นทางนี้เช่นเดียวกันแต่จะมีทางแยกออกไป ระยะทางอีกประมาณ 7 กิโลเมตร (โดยอยู่ห่างจากพระธาตุพนม 15 กิโลเมตร) ฝนลงเม็ดมาพอดี
ประกอบกับไม่มีรถโดยสารเข้าไปที่ตัวพระธาตุ
ทำให้ผู้เขียนจำต้องพลาดสถานที่แห่งนี้ไป
ทั้งนี้จากการสอบถามคนขับสามล้อเครื่อง
สามารถว่าจ้างจากพระธาตุพนมไปที่พระธาตุเรณูได้ ค่าบริการ 300 บาท
ระหว่างทางที่ใกล้จะถึงพระธาตุพนมนั้น ฝนตกลงมาหนาเม็ดมาก เมื่อผู้เขียนไปถึงพระธาตุพนมช่วงบ่ายแก่ๆ
ที่จุดจอดรถนั้น โชคดีฝนหยุดตกพอดีทำให้สามารถเดินไปหาที่พักบริเวณริมแม่น้ำโขงได้
เดินดูสักพักก็เลือกเข้าพักบ้านที่ติดริมน้ำโขง จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศกันแบบเต็มที่
พักผ่อนสักพักก็เดินออกมาจากที่พักเพื่อไปไหว้พระธาตุพนม
ระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร เหงื่อซึมๆ
ซึ่งพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์และผู้ที่เกิดปีวอก
ประดิษฐาน ณ. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
การได้มากราบพระธาตุพนมสัก 1 ครั้ง ถือว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต
ต้องขอบอกว่าอลังการงานสร้างจริงๆ ครับ สามารถเดินทางเข้าสู่องค์พระธาตุทั้ง 4 ทิศ ประทับใจในความสวยงาม ปลาบปลื้มใจที่ได้มากราบอย่างบอกไม่ถูก ใครยังไม่เคยมา... ต้องลองหาเวลามาสัมผัสด้วยตัวเอง
จากนั้นเดินชมสินค้าต่างๆ และกลับเข้าที่พัก
ระหว่างทางสอบถามจากนักเรียนได้ความว่าตอนกลางคืนเปิดไฟจะสวยงามมาก ตั้งใจว่าเดี๋ยวหัวค่ำจะออกมาใหม่
ฝนตั้งท่าอีกแล้วจึงแวะทานอาหานเย็นก่อนเข้าที่พัก พอถึงที่พักฝนลงเม็ดพอดี ตั้งแต่ช่วงเย็นใกล้ค่ำจนเช้าของอีกวันหนึ่ง
โชคดีที่ไม่เปียกแต่โชคไม่ดีที่ไม่มีโอกาสไปดูพระธาตุตอนค่ำ
เอ?..แบบไหนดีกว่ากันนะ
ก็ถือโอกาสนี้พักผ่อน นอนเล่น อ่านหนังสือ ดูวิวริมแม่น้ำโขง แบบสโลว์ไลฟ์
ช่วงเช้ารับประทานอาหารเช้าสอบถามจากผู้ประกอบการที่พักได้ความว่าวันที่
11-12 สิงหาคม
ของทุกปี ฝนจะตกหนักแบบนี้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์เมื่อวันที่
11 สิงหาคม 2518 เนื่องจากผู้เขียนเกิดไม่ทัน
ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย
การเดินทางนอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ
แล้วยังสามารถเพิ่มเติมความรู้รอบตัวให้กว้างขวางขึ้นอีกด้วย ผมจะเดินทางไปไหนต่อ?...ตามกันนะครับ
ขอให้โชคดี..มีสติ
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น