เลือกกองทุนไหนดี?
ใกล้ช่วงสิ้นปีของทุกปีผู้อ่านคงเคยได้ยินโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกองทุนรวม
LTF และ RMF กันหนาหูจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
(บลจ.) รวมต่างๆ ถึงการจัดงานอีเว้นท์ เช่น SET in The City เพื่อระดมเงินทุนไปลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ
ทั้งนี้บทความที่ผ่านมาได้นำเสนอเกี่ยวกับการลงทุนสำหรับผู้มีเวลาน้อยไปบ้างแล้ว การเริ่มต้นลงทุนด้วยกองทุนรวม LTF และ RMF เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นและเมื่อตัดสินใจได้ว่าจะลงทุนในกองทุนรวมประเภทดังกล่าวแล้ว ก็จะมีคำถามตามมาว่าจะลงทุนในกองทุนรวมและบลจ.
ไหนดี เพราะว่าในตลาดหลักทรัพย์มีกองทุนรวมและ
บลจ. ให้เลือกมากมาย
ย้อนหลังไปสัก 7-8 ปีก่อน ผมก็ประสบกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีกองทุนให้เลือกมากมาย
รวมทั้งมีภารกิจจากการทำงานประจำ
การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจึงทำได้ค่อนข้างยากและยังไม่มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเลย ดังนั้นจึงทำการซื้อกองทุนรวมโดยเลือกจากความสะดวกเป็นหลักเพราะว่ากองทุนนั้นสามารถซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตและมีอยู่ในเมนูของธนาคารออนไลน์ที่ผมใช้บริการอยู่แล้ว
ทั้งนี้ไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนจากการลงทุน
ผลงานของกองทุนที่ผ่านมาและความสามารถของผู้จัดการกองทุนเลย เพียงแค่อ่านหนังสือชี้ชวนว่ากองทุนนี้มี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset
Value : NAV) เท่าใด
นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทใดบ้าง มีเงินปันผลหรือไม่ จุดประสงค์หลักคือต้องการประหยัดภาษี
อย่างไรก็ตามผมยังโชคดีที่ราคาหลักทรัพย์ในขณะนั้นราคาไม่สูง เมื่อครบ 5 ปีปฏิทิน
(สำหรับ LTF) ผมขายกองทุนดังกล่าวทำให้ผมได้กำไรจากการประหยัดภาษี เงินปันผล และ ส่วนต่างราคา นับได้ 3 เด้งครับ
อย่างไรก็ดีผู้อ่านอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับผม จะดีกว่าหรือไม่หากกองทุนนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า
ถ้าเราเลือกผู้จัดการกองทุนที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า โดยพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาทำให้โอกาสที่ลงทุนแล้วจะประสบความสำเร็จก็จะมีมากกว่าตามไปด้วย
เปรียบเหมือนกับทีมฟุตบอลที่มีซูเปอร์สตาร์เต็มทีมเมื่อลงแข่งขันกับทีมเล็กๆ
โอกาสชนะก็มีมากกว่าอย่างแน่นอนแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ ฟุตบอลลูกกลมๆ การลงทุนก็เช่นเดียวกันครับ ผลงานดีมา 5 ปีติดต่อกันปีนี้อาจจะไม่ดี มือใหม่อาจทำได้ดีกว่าก็ได้ นั่นคือความเสี่ยงครับ เขาถึงใช้คำว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ต้องศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” ครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น