กลยุทธ์การลงทุนสำหรับผู้มีเวลาน้อย

บทความก่อนหน้าได้นำเสนอการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund หรือ LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) เพื่อใช้สิทธิทางภาษีซึ่งทำให้เรามีกำไรเริ่มต้นก่อนการลงทุนอย่างแน่นอน
  
ทั้งนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายได้และฐานภาษีของเรา   ถ้ารายได้อยู่ในเกณฑ์มากและเสียภาษีในฐาน 20%, 30% ก็ทำให้มีกำไรเริ่มต้นก่อนการลงทุนมากขึ้นไปตามลำดับ     

เมื่อเราตัดสินใจในการลงทุนประเภทนี้แล้ว   ขั้นตอนต่อไปต้องทำการศึกษาหาข้อมูลและผลการดำเนินงานของกองทุนต่างๆ รวมถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้  จนสามารถเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ถูกใจได้   จากนั้นก็ไปสู่วิธีการหรือกลยุทธ์ในการลงทุน

ในแง่ของกลยุทธ์ในการลงทุนนี้ผู้อ่านคงเคยได้ยินข่าวที่คนส่วนใหญ่จะแห่ไปซื้อกองทุนรวมในช่วงปลายปีของทุกปีโดยเฉพาะเดือนธันวาคมเพื่อให้ได้สิทธิทางภาษี     โดยไม่ได้คำนึงถึงราคาต่อหน่วยของกองทุนหลักทรัพย์และทรัพย์สินต่างๆ ที่กองทุนนั้นไปลงทุนไว้ว่ามีราคาแพงเกินไปหรือไม่    

บางคนอาจจะวางแผนซื้อด้วยเงินก้อนเดียวหรือทยอยซื้อ    ซื้อตอนที่ราคาถูก   ทั้งนี้การคาดการณ์ว่าตลาดมีราคาถูกแล้วหรือจะถูกลงอีก    แพงแล้วหรือแพงขึ้นอีกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่   และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมืออาชีพ    

ในส่วนของผมก็ขอยอมรับว่าครั้งแรกที่ผมซื้อกองทุนรวม  ผมก็ซื้อในช่วงเดือนธันวาคมเหมือนกัน   เพราะว่ายังขาดประสบการณ์แต่ก็ยังโชคดีที่ราคาของสินทรัพย์ในช่วงนั้นราคาไม่แพง  เมื่อครบกำหนดคือ 5 ปีปฏิทิน ผมสามารถขายได้กำไรจากส่วนต่างราคา  เพิ่มเข้ามาจากการได้ปันผลและสิทธิทางภาษี      

อย่างไรก็ดีถ้าเราสามารถทยอยซื้อได้ทุกเดือน ทุก 3 เดือนหรือครึ่งปี โดยไม่สนใจว่าราคาหุ้นในตอนนั้นเป็นเท่าไร  ถูกหรือแพง   วิธีนี้เรียกว่าการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนหรือ Dollar Cost Averaging   จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความเสี่ยงลงได้  

จากผลการศึกษาในการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน SET index ทุกเดือนเป็นเวลา 4 ปี นับจาก มกราคม 2545 ถึง ธันวาคม 2548 นั้นการลงทุนแบบเฉลี่ยซื้อได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในช่วงปลายปี ปีละครั้งถึงร้อยละ 8.27 เลยทีเดียว รวมถึงสูงกว่าการลงทุนที่ซื้อไตรมาสละครั้ง ร้อยละ 2.65 หรือ ครึ่งปีครั้ง ร้อยละ 4.07 อีกด้วย (ข้อมูลอ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์)

อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนนี้ผู้อ่านต้องมีวินัยในการลงทุนค่อนข้างสูง   แต่ก็คงไม่ยากเกินความสามารถ   เมื่อเราลงทุนเริ่มมีความรู้ก็จะพัฒนาไปสู่การลงทุนด้วยตัวเอง  การเป็นเจ้าของกิจการเองโดยจ้างผู้บริหารมืออาชีพมาจัดการให้ 

โดยที่การลงทุนจะไม่ใช่เรื่องยากและไกลตัวอีกต่อไป  การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน  การไม่ลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลก่อนที่จะเกษียณแล้วไม่มีเงินใช้นะครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ” 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด