แบกเป้เที่ยวสกลนคร
หลังจากท่องเที่ยวในตัวเมืองมุกดาหารและบริเวณใกล้เคียงเป็นเวลา 2 วันแล้ว เช้านี้ตื่นขึ้นมาด้วยความสบาย ไม่ต้องเร่งรีบยังคงอยู่กับวลีที่ว่า “ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
ไม่เร่งรีบ (Slow Life)” วันนี้วางแผนเดินทางไปเที่ยวต่อกันที่จังหวัดสกลนคร
ช่วงสายออกไปอาหารเช้ารับประทานบริเวณตลาดของตัวเมืองเช่นเดิม
จากนั้นนำรถจักรยานยนต์ที่เช่ามาไปคืนที่ร้านกู๊ดมุกแล้วนั่งสามล้อเครื่องกลับมาที่พักอีกครั้ง นั่ง นอน
อ่านหนังสือนอกเวลาเพื่อรอเวลาออกเดินทางในช่วงเที่ยงๆ
เนื่องจากที่พักอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งจึงไม่ต้องรีบร้อน
เมื่อไปถึงสถานีขนส่งต้องตกใจเพราะมีผู้โดยสารมากมายทีเดียว สาเหตุจากเป็นวันหยุดต่อเนื่องมาจากวันแม่และเป็นวันอาทิตย์ที่ทุกคนกำลังเดินทางกลับไปทำภารกิจของตัวเองกันต่อ
อนึ่งรถโดยสารที่จะเดินทางไปที่สกลนครนั้นมีทั้งรถตู้ปรับอากาศและรถทัวร์ขนาดใหญ่
จะมีทั้งที่เป็นจุดต้นทางและจุดรายทางที่รถโดยสารระหว่างอุบลราชธานี-อุดรธานี
ที่เป็น 2 จังหวัดใหญ่แวะมารับผู้โดยสาร ขอแนะนำว่าให้เลือกรถโดยสารที่เป็นต้นทางจะดีกว่า เพราะเวลาแน่นอนและไม่ต้องยืนบนรถนาน..ผู้เขียนยืนมาแล้ว..ฮ่าๆๆ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงสถานีขนส่งสกลนคร
สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการหาที่พักโดยเลือกพักใกล้ๆกับ
สถานีขนส่งอีกเช่นเดิม
เพราะวางแผนจะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้นในช่วงหัวค่ำ
จะได้เช็คเอาท์ช่วงสายแล้วฝากกระเป๋าไว้ที่ที่พัก เย็นจะได้เข้าไปขอใช้ห้องน้ำ ล้างหน้า
ล้างตา
เข้าพักที่โรงแรมพีซีพาเลส 2 ตรงข้ามค่ายกฤษณ์สีวะรา ราคาย่อมเยาว์ คุณภาพก็ตามราคา เมื่อได้ที่พักแล้วต่อไปจำต้องหารถจักรยานยนต์เช่า ติดต่อไปที่ลุงศุภโชค รถเช่า ให้ลุงเขามารับจากที่พักไปทำสัญญาและรับรถที่บ้านลุง ได้รถแล้วก็ลุยกันได้เลย...
ช่วงบ่ายหลังจากที่ฝนได้ตกไปแล้ว ขับขี่รถออกไปนอกเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ไปนมัสการพระธาตุดุม
อยู่ที่วัดพระธาตุดุมเป็นที่แรก ลักษณะเป็นปราสาทองค์เดียวสร้างด้วยศิลาแลง ปราสาทมีเพียงยอดเดียวไม่มีฐานรองรับ เป็นศิลปะเขมรแบบบาปวน
จากนั้นไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่พิพิธภัณฑ์บริขาร
อาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
ตั้งอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส
ตรงข้ามศูนย์ราชการจังหวัด ซึ่งผู้เขียนมีความตั้งใจมานานมากแล้ว...ได้มีโอกาสสักที ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ประยุกต์ สร้างด้วยกระเบื้องดินเผา
ภายในพิพิธภัณฑ์มีรูปหล่อเหมือนองค์ของพระอาจารย์มั่น ในท่านั่งสมาธิ
และมีตู้กระจกบรรจอัฐิของท่านที่แปรสภาพเป็นแก้วผลึกใสสีขาวพร้อมทั้งตู้แสดงเครื่องอัฐบริขาร
รวมทั้งประวัติความเป็นมาของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ
นอกจากนั้นยังมีกุฏิที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนมาพักปฏิบัติธรรม
(รูปด้านบน) และพิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย
จันทสาโร ตั้งอยู่ในวัดป่าสุทธาวาสเช่นเดียวกัน สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่หลุย ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่สายวิปัสสนา
ศิษย์ของพระอาจารย์มั่น
จากนั้นเดินทางไปนมัสการพระธาตุเชิงชุม ณ.
วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ซึ่งเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน
ฐานรูปทรงสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 24 เมตรและเป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ
ภายในวิหารใกล้พระธาตุเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระองค์แสนอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพของชาวสกลนคร


ช่วงเย็นไปนั่งพัก
เดินเล่นที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และสระพังทอง มีผู้คนมาออกกำลังกายกันหลายวัยทีเดียว วิ่ง-เดิน
รอบสระน้ำ บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย เดินไป 1 รอบ ได้เหงื่อเหมือนกัน ใกล้ๆ กันเป็นทะเลสาบหนองหาน
ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีชื่อเสียงและกว้างใหญ่มากแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ช่วงค่ำหาอาหารเย็นรับประทานแถวตลาดตรงข้ามเทศบาลนครสกลนคร กลับเข้าที่พัก เหนื่อยมาทั้งวันแล้วพักผ่อน วางแผนเดินทางกันต่อ การเดินทางของผมยังไม่จบ จะไปไหนต่อ?...ตามกันนะครับ ขอให้โชคดี..มีสติ
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น