ร่ำรวย เงินทองและสุขภาพ
การดำรงชีวิตในทุกวันนี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงวัย ปัจจัย 3 อย่างที่สำคัญคือแรง เวลาและเงิน ช่วงวัยเด็กมีแรง
มีเวลาแต่ไม่มีเงิน
ช่วงวัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงาน มีแรง มีเงินแต่ไม่มีเวลา ส่วนวัยชรามีเวลา มีเงินแต่ไม่มีแรง
ท่านผู้อ่านรู้สึกไหมครับว่าชีวิตเราก็อยู่ในวังวนแบบนี้มาหลายรุ่นต่อหลายรุ่น จะมีโอกาสหรือไม่ที่เราจะสามารถมีครบทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ คงไม่มีใครไม่ต้องการหรอกนะครับ!
ถ้าผู้อ่านไม่ได้เกิดมาร่ำรวยการที่จะมีเงินในช่วงวัยเด็กก็คงจะลืมไปได้ทันที ส่วนในวัยชราก็คงยากที่จะเข้าไปแก้ไขอะไรได้ทันแล้ว
แต่ถ้าผู้อ่านยังอยู่ในช่วงวัยทำงานหรือกำลังก้าวเข้าสู่วัยดังกล่าว สิ่งที่เราปรารถนาก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นจริงได้หากเราวางแผนไว้ก่อน
ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งได้เปรียบ (วางแผนตั้งแต่ตอนเลือกอาชีพเรียนหรือก่อนเริ่มทำงาน)
โดยที่เราทำงานเก็บเงินออม
ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
และนำเงินไปต่อยอดด้วยการลงทุนด้านต่างๆ เช่น ลงทุนในหุ้น ที่ดิน ทองคำ ฯลฯ
ทั้งนี้การลงทุนจะช่วยเราทำงานอีกแรงหนึ่งถือเป็นการให้ทรัพย์สินทำงาน ข้อดีของการให้ทรัพย์สินทำงานที่ต่างกับการเป็นลูกจ้างหรือธุรกิจส่วนตัวก็คือจะสร้างผลตอบแทนให้เราตลอดแม้ว่าเราอาจจะไปเที่ยวต่างประเทศสักระยะหนึ่งหรือไม่สบาย
อิสรภาพทางการเงินที่หลายๆ
คนใฝ่ฝันก็อยู่แค่เอื้อม!!!
อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยงซึ่งเราต้องทำการศึกษาข้อมูลและหารูปแบบการลงทุนของตัวเองให้เจอ
ซึ่งผมก็ยังคงย้ำประโยคนี้อยู่บ่อยๆ
เมื่อเราอยู่ในช่วงวัยทำงาน
คนส่วนใหญ่ก็จะทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อสร้างฐานะ มีไลฟ์สไตล์แบบบริโภคนิยมไปตามกระแส ละเลยต่อการลงทุนหรืออาจจะมีส่วนน้อยที่ให้ความสนใจ
บางคนทำงานตั้งแต่เช้าจนมืด วันจันทร์ถึงวันเสาร์ บางคนเที่ยวสังสรรค์ตระเวนราตรี
เนื่องจากคนวัยทำงานยังมีความคิดว่าตนเองอายุยังน้อย จึงไม่สนใจต่อสุขภาพทำเหมือนจะไม่เจ็บป่วย กิน ดื่ม เที่ยว เป็นเรื่องปกติ การพักผ่อนน้อย
ความเครียดที่เกิดจากการทำงานในสภาวะที่ต้องแข่งขันกับบริษัทอื่นรวมถึงในองค์กรเดียวกันด้วย สาเหตุพวกนี้ทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นมากมาย
นอกจากนี้อาหารที่รับประทานก็มีส่วนสำคัญ ทั้งนี้ผมได้อ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์
ไทยรัฐ ลงวันที่ 11
มีนาคม 2558 เรื่อง “ประกาศสงครามลดหวาน” องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศสงครามกับความหวาน เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพของชาวโลก มีผู้เสียชีวิตเกี่ยวเนื่องกับการบริโภคหวานเกินปีละหลายล้านคน
ถ้าผู้อ่านตระหนักถึงพิษภัยที่มีรอบตัวแล้ว
ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพที่ดี สิ่งแรกที่ผมอยากจะนำเสนอ ไม่ยากและไม่ต้องใช้เงินเยอะหรืออาจจะไม่ต้องใช้เงินเลยคือการออกกำลังกาย การที่เราทำงานมาทั้งวันแล้ว ร่างกาย สมองมีความอ่อนล้า หรือบางท่านอาจจะมีปัญหา
มีความเครียดจนทำให้นอนไม่หลับ
การออกกำลังกายสักครึ่งชั่วโมงต่อวัน 3-5 วันต่อสัปดาห์
จะทำให้เราได้รับออกซิเจนมากขึ้น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายนอนหลับสบาย ร่างกายและสมองได้พักผ่อนเต็มที่พร้อมกลับไปทำงานในวันรุ่งขึ้น
ผมออกกำลังกายด้วยการวิ่งมากว่า 10 ปีแล้ว
ทำงานทั้งวันพอวิ่งเสร็จก็จะรู้สึกสดชื่น
สมองปลอดโปร่ง หลับสบาย ลองดูครับ! ผมเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน
ส่วนอาหารและพฤติกรรมประจำวันก็ค่อยๆ
ปรับไปในแนวทางที่ดีขึ้น ไม่ตึงไป
ไม่หย่อนไป
สุขภาพดีนั้นมีเงินเท่าไรก็ซื้อไม่ได้
ต้องทำเอง เป็นแฟนก็ทำแทนกันไม่ได้ครับ!
เอาไว้ใช้ทำเรื่องอื่นแทนแล้วกัน ฮ่าๆๆ สมบัติที่มีค่าที่สุดก็คือร่างกายเรา ถ้าเราไม่รักษาเขา เขาก็อยู่กับเราได้ไม่นาน แล้วเราจะอยู่ยังไงล่ะ?
สุดท้ายนี้ถ้าร่ำรวย
เงินทองแต่สุขภาพไม่ดี ไม่แข็งแรง ก็คงจะหาความสุขได้ยาก
หากสุขภาพดีแต่ไม่มีเงินทองอาจจะเหนื่อยสักหน่อย แต่ถ้าเราร่ำรวย เงินทองและสุขภาพดีด้วย
คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ซึ่งผมปรารถนาเช่นนั้นและขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ผู้อ่านทุกท่านสมหวังด้วย
ขอให้โชคดี
มีสติครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น