จิตวิทยาการลงทุน
หลังจากได้เขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนในรูปแบบต่างๆ
ผู้อ่านคงพอที่จะเห็นแนวทางที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองกันแล้วนะครับ
เรื่องต่อมาที่สำคัญที่ขอจะมานำเสนอในบทความนี้คือจิตวิทยาการลงทุน
เนื่องด้วยการลงทุนมีเรื่องของตัวเงินมาเกี่ยวข้อง ภาวะตลาดหุ้นจะทำให้เกิดความโลภและความกลัว
หากผู้อ่านได้เข้าไปทดลองลงทุนจำลองใน
click2win
(บทความเรื่องการลงทุนแบบจำลอง นำเสนอเมื่อวันที่ 26 มกราคม
2558) จะพบว่าราคาของหุ้นที่เราซื้อไว้จะปรับตัวสูงขึ้นมากหรือลดลงมากก็ไม่ส่งผลต่อจิตใจของเราแต่อย่างไร เราจะรู้สึกเฉยๆ
เพราะว่าไม่ใช้เงินของเราจริงๆ
ถึงแม้ว่าเราจะซื้อหุ้นนั้นๆ เป็นปริมาณ (Volume) มากๆ
หรือด้วยจำนวนเงินมากก็ตาม
หากเราวางกลยุทธ์ในการเข้าซื้อขายหรือตัดขาดทุน
เราจะทำได้โดยง่ายเพราะว่าไม่มีเงินจริงๆ มาเกี่ยวข้อง ทำให้เราไม่มีอารมณ์ร่วมกับสภาวะตลาดนั้นๆ ดังนั้นผมจึงได้แนะนำให้ลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ
ก่อน
จะเกิดการเรียนลัดและได้รับรู้ถึงอารมณ์ต่างๆ ที่สภาวะตลาดพาไป
ทั้งนี้ผมก็ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าสำหรับมือใหม่ควรลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ
นะครับ จิตวิทยาในการลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจและสามารถฝึกฝนกันได้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่เวลาลงมือปฏิบัติจริงไม่ง่าย
ยกตัวอย่างเช่นการซื้อถูกขายแพงก็ดูเหมือนเป็นเรื่องพื้นฐานในการทำกำไรจากหุ้น
เนื่องด้วยราคาหุ้นมีความผันผวน เมื่อเราซื้อหุ้นแล้วราคาหุ้นลงต่ออีก
จะทำให้เราจะเกิดความกลัวส่งผลให้คราวหน้าเราจะไม่กล้าซื้อหุ้น ในทางกลับกันหากเราขายหุ้นแล้วหุ้นขึ้นต่ออีกตลาดจะสร้างความโลภให้เรา ให้เราเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่ม หรือคราวหน้าเราจะไม่ขาย และเมื่อหุ้นปรับตัวลงก็อาจจะเกิดความเสียหายได้
สิ่งที่จะช่วยแก้ได้ก็คือความรู้และประสบการณ์
เราสามารถเรียนรู้จากผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาก่อนและได้นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานหรือเราต้องประสบพบเจอด้วยตัวเอง แบบหลังนี้จะช่วยให้เราจำแม่นมากเข้าตำรา “เล่นจริง
เจ็บจริง ไม่ต้องใช้สแตนด์อิน” ผมก็โดนมาแล้วเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
อย่างไรก็ดีจิตวิทยาที่แฝงมากับกลยุทธ์ในการลงทุนมีหลากหลาย และสัมพันธ์กับรูปแบบการลงทุนของผู้ลงทุนนั้นๆ
ด้วย เช่นนักลงทุนแนวเน้นคุณค่าจะเน้นการซื้อถูกขายแพง ส่วนแนวโมเมนตัมจะเน้นการซื้อแพง
แต่ขายแพงกว่า
ทั้งนี้ผมจะขอนำเสนอจิตวิทยาที่เกี่ยวกับการลงทุนที่ผมเจอมาในโอกาสต่อๆ ไป
หากผู้อ่านได้ติดตามบทความของผมตั้งแต่เริ่มต้นมานั้น
ผมได้ปูพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนมาเป็นลำดับ ท่านผู้อ่านสามารถศึกษาหารูปแบบการลงทุนที่เข้ากับตัวเอง การลงทุนในตลาดหุ้นไม่มีถูกผิด ขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีการคิดวิเคราะห์ของแต่ละบุคคล ซึ่งผมมองว่านี่คือเสน่ห์ของตลาดหุ้น
สุดท้ายนี้หากต้องการประสบความสำเร็จจากการลงทุนก็จำเป็นต้องเรียนรู้หลายอย่าง ต้องฝึกพัฒนาตัวเอง ไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆ
ครับ
เราต้องเรียนรู้ทั้งตลาดขาขึ้นหรือขาลง
มีเป้าหมาย จิตใจ หาแนวทางของตนเองให้เจอ
แล้วตลาดหุ้นจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น ขอให้โชคดี มีสติครับ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น