การลงทุนอย่างมีความสุข

สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราทำสิ่งต่างๆได้ดีคือการทำอย่างมีความสุข   การทำกิจกรรมต่างๆ เช่นการเรียน การทำงาน  หากเราชอบการกระทำนั้นๆ  ส่วนใหญ่แล้วผลลัพธ์มักจะออกมาในทางที่ดี   ในทางกลับกันหากเราไม่ชอบหรือไม่มีความสุขกับกิจกรรมนั้น  ผลลัพธ์ก็จะออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ตัวอย่างเช่นหากเราไม่ชอบการเรียนวิชาใด  เกรดของวิชานั้นก็จะไม่ดี   หากเราไม่ชอบ ไม่มีกับความสุขกับงานที่ทำ  เราจะทำงานนั้นได้ไม่นาน     แต่ถ้าเราสามารถเลือกเรียนหรือทำงานในสิ่งที่เราชอบได้คงจะเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันนี้มีผู้สนใจการลงทุนมากขึ้นซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม   แต่มีผู้ลงทุนหลายรายที่ยังขาดประสบการณ์  ขาดความรู้และความเข้าใจที่แท้จริงในมิติของการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพและทักษะในการลงทุน   เมื่อได้กำไรจากวัฎจักรของหุ้นขาขึ้นก็ออกจากงานมาลงทุนเพียงอย่างเดียว  ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก         

อย่างไรก็ดีหากบุคคลนั้นได้ผ่านวัฎจักรของหุ้นขาลงมาด้วยแล้วก็อาจจะออกมาลงทุนเพียงอย่างเดียวได้ (รอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ปี)   แต่จะดีกว่าหรือไม่หากเราสามารถมีรายได้จากทางอื่นเข้ามาเสริมด้วย     เพราะเงินยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการดำรงชีวิตในยุคนี้   

ถ้าผู้อ่านเคยอ่านหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก ตอน เงินสี่ด้าน” ของ Robert T. Kiyosaki ได้แบ่งวิธีการหารายได้ออกเป็น 4 ด้าน คือ 1. ลูกจ้าง  2. ธุรกิจส่วนตัว 3. เจ้าของกิจการ  4. นักลงทุน   ในด้าน 1,2 นั้นต้องทำงานถึงจะได้เงิน  แต่ด้าน 3,4 นั้นเป็นการหารายได้จากทรัพย์สิน  ถึงเราไม่อยู่หรือไม่ได้ทำงานก็ยังสามารถสร้างเงินได้  (ถ้าผู้อ่านสนใจก็ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป)

ทั้งนี้ผมนำเสนอในเงินสี่ด้านนี้เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกระแสเงินสด (Cash Flow)  ไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพใด หรืออยู่ในด้านใดก็ตาม   หากเราไม่มีกระแสเงินสดเข้ามาเพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหรือแม้ว่ากำไรจากธุรกิจจะดีมากแต่ไม่มีกระแสเงินสดเข้ามา    เราก็จะประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน

ผมขอนอกประเด็นสักหน่อย   ในเรื่องเงินสี่ด้านนี้เราสามารถสร้างรายได้จากหลายๆ ด้าน ได้พร้อมกันเป็นทวีคูณ ผมรู้จักทันตแพทย์ท่านหนึ่งอยู่ทั้ง 4 ด้านพร้อมกัน ประจำอยู่โรงพยาบาลเป็นลูกจ้าง  ทำคลีนิกเป็นธุรกิจส่วนตัว   หุ้นกับเพื่อนเปิดคลินิกใหม่ติดต่อแพทย์ท่านอื่นๆ มาประจำ เป็นเจ้าของกิจการ  สุดท้ายลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นนักลงทุน  สุดยอดไปเลยครับ!!!

กลับเข้ามาเรื่องการลงทุนอย่างมีความสุข    หากผู้อ่านทำงานประจำไปด้วยและลงทุนไปด้วยจะช่วยคลายกังวลเรื่องกระแสเงินสดเพื่อนำมาใช้ไปดำเนินชีวิตประจำวัน  มีความสุขเฝ้ารอให้เงินโต    และเมื่อเงินงอกเงยจนทรัพย์สินมีค่ามากพอที่ได้เงินปันผลแต่ละปีพอเพียงกับความต้องการใช้จ่าย ก็พิจารณาออกจากงานได้

หากผู้อ่านบางท่านอาจจะไม่ชอบการทำงานประจำ   สิ่งที่จะช่วยให้ท่านลงทุนอย่างมีความสุขคือควรจะหารายได้จากทางอื่นเพื่อสร้างกระแสเงินสดไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน    เช่นอาจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า   การทำธุรกิจส่วนตัว  เช่นการขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

อย่างไรก็ดีหากผู้อ่านมีความรู้  ความสามารถในการลงทุนหุ้นหรือมีเงินทุน ต้องการลงทุนด้านนี้เพียงอย่างเดียวก็ถือว่าเป็นความสามารถของท่าน     แต่จากสถิติหุ้นนั้น  10 คน สำเร็จ 1 คน  เท่าทุน 1 คน และล้มเหลว 8 คน  ถ้าท่านคิดว่าเป็นหนึ่งในตองอูก็ลุยครับ!  ผมเอาใจช่วย

บทความนี้สอดคล้องกับบทความที่ผ่านมาซึ่งกล่าวถึงการบริหารเงินลงทุน  หากเราสามารถสร้างรายได้จากทรัพย์สินจนเพียงพอกับการใช้จ่ายเราก็จะพบกับอิสรภาพทางการเงิน  

การลงทุนในหุ้นนับเป็นแขนงหนึ่งในการสร้างรายได้    หากเราลงทุนอย่างมีความสุขผลลัพธ์ก็น่าจะออกมาดี     เป้าหมายของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน    บางคนใกล้  บางคนไกล  บางครั้งการรอคอยไปถึงเป้าหมายเพื่อจะลิ้มรสของความสุข  บางคนอาจจะไม่ได้สัมผัสเลย    จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเรามีความสุขระหว่างทางไปด้วย   “พากเพียรในเหตุ  ปล่อยวางในผล”    ขอให้โชคดี มีสติครับ...

                                                                                                                          “ภูผีเสื้อ”  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แบกเป้ไปเที่ยวทีลอซู (1)

แบกเป้ไปเที่ยวแม่ระมาด แม่สอด

แบกเป้ไปเที่ยวพบพระ แม่สอด