ไก่ทองคำ (2)
บทความที่ผ่านมาได้เปรียบเปรยการเลี้ยงไก่ไข่เหมือนการสร้างทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ในบทความนี้จะขยายผลถึงการเลือกหุ้นไก่ทองคำ วิธีเพิ่มจำนวนไก่ให้มากขึ้น รวมถึงปัญหาที่พบในระหว่างการดำเนินกลยุทธ์ไก่ทองคำนี้
ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องร่อนตะแกรงหาหุ้นไก่ทองคำนั้นก่อน ปัจจัยข้อแรกคืออัตราการปันผลที่ปานกลางถึงสูงโดยมองย้อนกลับไป
5 ปี เนื่องจากเราต้องการไข่ไก่เพื่อเก็บกินไปตลอดดังนั้นควรจะต้องเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพอสมควร
ข้อที่สองคือการดูข้อมูลพื้นฐานการลงทุนแบบเน้นคุณค่าทั่วไป เช่น อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE) โดยประมาณ 15-20% ขึ้นไปตลอด 5 ปีย้อนหลัง ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้นทุกปี P/E ไม่สูงมากกว่าหมวดอุตสาหกรรมนั้นๆ กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นไม่สูงมาก
(D/E) ต่ำกว่า 1 ยิ่งดี
(หมวดไฟแนนซ์อาจจะสูงกว่า) และที่สำคัญคือกระแสเงินสด (Cash Flow) ต้องมีเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก (ยกเว้นหมวดไฟแนนซ์มีความซับซ้อนมากกว่า) สุดท้ายเราต้องประเมินแนวโน้มของธุรกิจด้วยว่ากำลังเป็นขาขึ้นใช่หรือไม่เพื่อเข้าซื้อลงทุน
การเลี้ยงไก่ไข่นั้นอาจดูเหมือนง่ายแต่เมื่อลงมือทำจริงปัญหาย่อมเกิด
เพื่อนบ้านผมซื้อลูกไก่ตัวปานกลางมาเลี้ยงอยู่หลายตัว จากการพูดคุยจะต้องให้อาหารเลี้ยงดูประมาณ 49 วัน
ถึงจะออกไข่ได้ เอ!
ดูเหมือนน่าจะง่าย
ปรากฏว่ามีงูเหลือมมากินลูกไก่นั้นครับ
แย่จัง! ถ้าเป็นหุ้นไก่ทองคำเราคงจะเศร้ามากกว่านี้
การลงมือทำก็ย่อมเกิดปัญหา แต่ปัญหาก็คือโอกาสที่ทำให้เราเกิดการเรียนรู้และแก้ไขครับ
ผมซื้อหุ้นไก่ทองคำตัวนี้ตั้งแต่ปลายปี 2554 แบ่งซื้อเป็น 2 ไม้ และเมื่อพฤษภาคม 2556 ราคาขึ้นไปสูงประมาณ
100% จากต้นทุนที่ผมมี
จากนั้นผมทยอยขายไป 70% และถืออยู่ 30% ด้วยต้นทุนที่ติดลบ (นำกำไรที่ได้จากการขายนั้นมาหักลดต้นทุน) ง่ายๆ ก็คือ 30% ที่ถืออยู่ผมได้มาฟรีๆ
แถมเก็บกำไรบางส่วนเข้ากระเป๋าไปแล้วด้วย ต่อจากนั้นกลางปี 2556 ราคาตกลงมา 17 % ผมซื้อกลับเพิ่มเข้ามา 20%
ต้นเดือนพฤศจิกายนปี
2556 ราคาลงมาทำจุดต่ำสุดจากจุดสูงสุด 61% ปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2556
ราคาเด้งกลับมาทำราคาต่ำกว่าจุดสูงสุด 55% ผมซื้อเพิ่มอีก 20% รวมขณะนี้ผมถือไว้
70% ถึงปัจจุบันราคายังคงไม่ไปไหน
จากการบรรยายข้างต้นเพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์แบบนี้จำเป็นต้องใช้เวลารอคอยที่ยาวนาน ผมเริ่มถือหุ้นตัวนี้ตังแต่ปลายปี 2554 จนถึงขณะนี้และยังไม่สามารถเพิ่มจำนวนหุ้นได้ตามที่ต้องการเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทำให้ผลประกอบการของหุ้นตัวนี้ยังไม่ค่อยสดใสมากนัก
ถัดมาการใช้กลยุทธ์นี้ผู้อ่านต้องอดทนกับการถือหุ้นที่ราคาลดลงทุกวันๆ
(ใจจะเสีย) นอกจากนั้นจะพบว่าเมื่อราคาตกลงมา 17% จากจุดสูงสุดผมซื้อเพิ่มและราคายังคงไหลลงอย่างรุนแรง เราต้องทำใจและมุ่งมั่น อดทนกับแผนการของเรา
ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าราคาจะกลับไปเมื่อไร
การฝึกหาจังหวะในการเข้าซื้อขายจะทยอยซื้อหรือทยอยขายในขาขึ้นหรือขาลง เรื่องพวกนี้จะเป็นการฝึกจิตใจตัวเอง รวมถึงการลงทุนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ตลาดจะเป็นตัวเฉลยให้ครับ
และที่สำคัญหากหุ้นไก่ทองคำตัวนี้พื้นฐานเปลี่ยน
เช่นอาจไปลงทุนเพิ่มในธุรกิจอื่นที่ไม่ชำนาญหรือเพิ่มทุนไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นเราก็ควรต้องพิจารณาเปลี่ยนหาไก่ทองคำตัวใหม่ด้วยนะครับ มันยากที่จะรู้แต่ก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้
สุดท้ายนี้การที่เราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งก็จำเป็นต้องเรียนรู้ ฝึกฝนและพัฒนา
เปรียบเหมือนการเรียนหนังสือเพื่อนำไปประกอบอาชีพเรียนกันตั้งแต่เด็กจนหนุ่มสาว การลงทุนจะให้สำเร็จเพียงข้ามคืนอาจจะยากไปสักหน่อย! ขอให้โชคดี มีสติครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น