ยามเมื่อเราท้อแท้
ตั้งชื่อบทความได้ไม่น่าอ่านเลยนะครับ... การทำกิจใดๆ ใครๆ
ก็คงคาดหวังว่างานนั้นจะออกมาสำเร็จสมบูรณ์แบบ
ยิ่งไม่มีอุปสรรคด้วยยิ่งเป็นการดีซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเป้าหมายและงานนั้นๆ
ด้วย
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้นย่อมมาพร้อมกับความทุ่มเทในการทำงาน รวมถึงระยะเวลารอคอยความสำเร็จนั้น เปรียบเหมือนการเดินทางไกลที่ต้องใช้กำลังและระยะเวลาที่ยาวนานกว่า เพราะฉะนั้นอุปสรรคระหว่างทางย่อมมากกว่าการเดินทางใกล้ตามไปด้วย
เริ่มแรกทุกคนมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะบรรลุเป้าหมาย
หากแต่ว่าปัญหาต่างๆนั้นจะเข้ามาทดสอบจิตใจของบุคคลนั้นเป็นระยะๆ ผู้ที่มีหัวใจกล้าแกร่งและมีความพร้อมเท่านั้นที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้นคนที่ประสบความสำเร็จจึงเป็นส่วนน้อยที่จะก้าวไปสู่ยอดของปิระมิด
ผมขอยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ
ที่ผมเห็นมาตลอด 10
ปี
เช่นการออกกำลังกาย
เริ่มต้นคนที่มาวิ่งออกกำลังกายมีความตั้งใจแรกจะมาวิ่งเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จากการสังเกตเมื่อวิ่งได้ประมาณ
2 สัปดาห์แล้วหยุดพักไปคนส่วนใหญ่จะหายไปและไม่กลับมาอีกเลย ข้ออ้างคือไม่มีเวลา ขี้เกียจจนกระทั่งยอมแพ้ไป
ทั้งนี้มีส่วนน้อยที่กลับมาซึ่งส่งผลให้เอาชนะใจตัวเองได้และการออกกำลังกายจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
เพียงเท่านี้ก็จะบรรลุถึงเป้าหมายได้ บทสรุปที่เห็นคือเมื่อมีความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว
จำเป็นต้องมีความอดทนเพียรพยายามต่อไปด้วยเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ หากเพียงแต่เรารู้จักใช้เทคนิคหรือวิธีการในการดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ในทางเดินนั้นต่อไป
ในเรื่องของการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นนักลงทุนทุกคนที่เข้าลงทุนมีความคาดหวังที่จะได้รับผลประโยชน์จากการลงทุน
มีเป้าหมายใหญ่เล็กรวมถึงระยะเวลาในการลงทุนที่ไม่เท่ากัน
ยามที่ตลาดเป็นไปดังที่คาดหวังนักลงทุนส่วนใหญ่ก็คงมีความสุข สนุกสนานกับการลงทุน
เมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหวังจะส่งผลให้เกิดความท้อแท้ สับสน เบื่อหน่าย เครียด
บางคนอาจเกิดปัญหาสุขภาพจิต ทั้งนี้การลงทุนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เราคิดดังนั้นเราควรที่จะเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ตลาดหุ้นจะทำให้เกิดขึ้นด้วย
ช่วงที่ตลาดหุ้นไม่เอื้อต่อการลงทุนนั้นเราไม่จำเป็นต้องลงทุนก็ได้
หากเรารู้สึกเบื่อหน่ายควรหาวิธีผ่อนคลายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
เช่นเปลี่ยนไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อพอกพูนความรู้และยังสร้างแรงบันดาลใจอีกทางด้วยหรือจะไปท่องเที่ยวพักผ่อน
ไปอยู่กับธรรมชาติ เปลี่ยนบรรยากาศ
ทั้งนี้ผมก็มีประสบการณ์แบบนี้เช่นเดียวกัน บังเอิญผมเดินไปร้านหนังสือเห็นหนังสือเกี่ยวกับลงทุนจึงเปิดอ่านซึ่งช่วยให้เสริมพลังความคิดได้มากระหว่างที่ตลาดหุ้นยังไม่ไปไหน รวมถึงการนำเสนอบทความลงในบล็อกนี้นอกจากจะได้แบ่งปันให้กับผู้อ่านแล้วยังช่วยให้ผมได้ทบทวนเนื้อหาที่ได้ศึกษามาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากผู้อ่านมีวิธีอื่นใดที่ท่านชื่นชอบนั้นก็สามารถดำเนินการได้ตามอัธยาศัย
กิจกรรมที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและช่วยเสริมเติมแต่งกำลังใจนั้นเปรียบเหมือนการรดน้ำใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้งอกเงยเจริญเติบโต
ซึ่งดีกว่าการนั่งจดจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในช่วงที่ตลาดหุ้นซบเซาอย่างแน่นอน
เป้าหมายที่ใหญ่ย่อมท้าทายกว่าเป้าหมายที่เล็ก ความมุ่งมั่นทุ่มเท เรียนรู้ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนั้นระยะเวลารอคอยความสำเร็จต้องใช้ความอดทน ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องใช้เวลายาวนานเท่าใดจึงจะถึงจุดหมาย ได้แต่เพียรทำเหตุให้ดีแล้วรอผลเท่านั้น...
ขอให้โชคดี มีสติครับ...
“ภูผีเสื้อ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น